การตั้งราคาสินค้า นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ผู้ประกอบการควรตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสม และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าให้ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าจากเรา ถ้าตั้งราคาแพงเกินไป ลูกค้าก็จะไม่สนใจสินค้าโดยทันที ดังนั้นการตั้งราคาให้เหมาะสมเป็นปัจจัยของการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นอย่างมาก
ในบทความนี้ YOU MOOC จะพามาเจาะลึกและเผยกลยุทธ์เรื่องการตั้งราคาสินค้าให้ลูกค้ายอมจ่ายจนได้กำไรงาม จะเป็นกลยุทธ์อะไรบ้าง ไปติดตามกันเลยดีกว่า
1) ตั้งราคาจากต้นทุนสินค้า
หลักการตั้งราคาจากต้นทุนสินค้าเป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมและใช้กันโดยทั่วไป โดยต้องคำนวณต้นทุนสินค้าต่อชิ้นให้ได้ก่อน เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าแรง ค่าขนส่ง และอื่น ๆ จากนั้นบวกเปอร์เซ็นกำไรเข้าไปให้เกิดเป็นราคาสินค้า
เช่น ต้นทุนต่อชิ้น 100 บาท ต้องการกำไร 40% ของต้นทุน แสดงว่าต้องตั้งราคาสินค้าไว้ 140 บาทต่อชิ้น
2) ตั้งราคาจากราคาตลาด
หลักการนี้เน้นการสำรวจตลาดรอบ ๆ ตัวที่ขายสินค้าหรือบริการที่คล้ายกับของเรา ศึกษาตลาดว่ามีราคาตั้งเฉลี่ย ๆ อยู่ที่เท่าไหร่ จากนั้นตั้งราคาให้ใกล้เคียงกับราคาตลาด ซึ่งไม่ต้องเน้นถึงต้นทุนสินค้าของเราอีกด้วย หลักการนี้เหมาะกับสินค้าที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด แต่ไม่ควรใช้การตั้งราคาแบบนี้กับธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากผู้อื่น หรือไม่ค่อยอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด
3) ตั้งราคาจากกลุ่มลูกค้า
วิธีการนี้อาจต้องอาศัยการสำรวจและสังเกตลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราว่า มีกำลังทรัพย์มากน้อยแค่ไหน หรือพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าเป็นในลักษณะใด โดยสามารถดูได้จากพฤติกรรม ความต้องการ รายได้ อาชีพ ไลฟ์สไตล์ และอีกหลาย ๆ ปัจจัย ซึ่งวิธีนี้จะสามารถทำให้ลูกค้ายอมจ่าย และมัดใจพวกเขาได้อย่างแน่นอน
4) ตั้งราคาจากคุณภาพสินค้า
หลักการตั้งราคาจากคุณภาพสินค้าต้องคำนึงถึงคุณภาพและคุณสมบัติของสินค้าชิ้น ๆ นั้นอย่างมาก ถ้าเราเชื่อว่าสินค้าของเรามีคุณภาพที่ดี การตั้งราคาก็สามารถอยู่ในระดับที่สูงกว่าร้านอื่น ๆ ได้ ไม่เพียงแต่ต้องเป็นสินค้าคุณภาพดีเท่านั้น แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือวิธีการสื่อสารให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงมูลค่าและคุณภาพของสินค้าให้ได้ นำเสนอความแตกต่างและความโดดเด่นของสินค้าที่ต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันจากเจ้าอื่นให้ได้
5) ตั้งราคาให้ลงท้ายด้วยเลข 9
ถือว่ากลยุทธ์ที่เห็นกันโดยทั่วไป แต่สร้างกำไรได้มหาศาล การตั้งราคาสินค้าที่ลงท้ายด้วยเลข 9 จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคานั้น “ถูก” และกล้าที่จะซื้อมากขึ้น ถึงแม้จะมีช่วงราคาต่างกันเพียงแค่ 1 บาทเท่านั้น เช่น 99 บาท , 199 บาท , 299 บาท เป็นต้น แต่การตั้งราคาในรูปแบบนี้เหมาะกับการตั้งราคากับสินค้าที่มีราคาไม่แพงมากไปจนถึงราคาที่ต่ำ
ข้อควรระวังสำหรับการตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 กับสินค้าที่มีราคาสูงหรือมีคุณภาพที่ดีจะทำให้สินค้าเสียภาพลักษณ์ และทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าชิ้น ๆ น้อยลง
6) ตั้งราคาให้คำนวณง่าย
การตั้งราคาขายให้คำนวณง่าย ๆ จะสามารถช่วยเรื่องการสร้างยอดซื้อของลูกค้าได้มากกว่า 1 ชิ้น เพราะนั่นจะลดความซับซ้อนและช่วยให้ลูกค้าคำนวณราคาสืนค้าเร็วมากขึ้น และส่งผลให้พวกเขาตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
การตั้งราคาแบบนี้เหมาะกับสินค้าที่ง่ายต่อการสั่งซื้อ หาได้ทั่วไป และตัดสินใจได้เร็ว เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ ของใช้ส่วนตัว ขนม ฯลฯ จึงไม่เหมาะกับสินค้าประเภทที่มีราคาสูงหรือต้องใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจที่นาน อย่างเช่น เครื่องมือไอที รถยนต์ และอื่น ๆ
7) ตั้งราคาเผื่อทำโปรโมชั่น
หลายครั้งที่ผู้ประกอบการมักลืมตั้งราคาสินค้าที่ไม่ได้เผื่อราคาโปรโมชั่นไว้ ดังนั้นการตั้งราคาขายเผื่อทำโปรโมชั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อเราต้องการเพิ่มยอดขายผ่านการทำโปรโมชั่นสุดพิเศษก็จะไม่ได้กำไรจากส่วนนั้นเลย แถมยังอาจทำให้บัญชีของเราติดลบซะด้วยซ้ำไป
8) ตั้งราคาเน้นผลกำไร
แน่นอนที่สุดว่า ทำธุรกิจทั้งทีก็ต้องคาดหวังถึงผลกำไร ดังนั้นการตั้งราคาสินค้าก็เป็นจุดเริ่มต้นของการได้ผลกำไรจากการขายสินค้านั่นเอง และไม่ควรตั้งราคาถูกจนเกินไปเพราะลูกค้าอาจมองว่าสินค้าของเราไม่มีคุณภาพ และการตั้งราคาที่ถูกเกินไปก็ทำให้สินค้าเหลือกำไรเพียงน้อยนิด
9) ตั้งราคาที่พร้อมส่งฟรี
สะกดจิตลูกค้าด้วยคำว่า “ส่งฟรี” สามารถกระตุ้นยอดขายให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดีและเป็นที่นิยมมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะค่าจัดส่งสินค้า ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจในการสั่งซื้อสินค้า ถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะมีราคาถูกแค่ไหน แต่เมื่อต้องเจอกับค่าจัดส่งที่ถูกเพิ่มเข้าไป บางรายก็จะรู้สึกว่าแพงขึ้นและตามมาด้วยการไม่ซื้อสินค้า
คำว่า “ส่งฟรี” เลยทำให้ร้านบางร้านสามารถปิดการขายได้ไว และสามารถดึงดูดลูกค้าให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำได้ด้วยเช่นกัน วิธีการตั้งราคาก็คือบวกราคาส่งรวมไปกับราคาสินค้าเลย และต้องระบุให้ลูกค้าได้ทราบว่าทางร้านไม่คิดค่าจัดส่งเพิ่มเติม
และนี่คือ 9 กลยุทธ์ “การตั้งราคาสินค้า” ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าทุกกลยุทธ์จะคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก โดยเน้นการตั้งราคาเพื่อให้เกิดการตัดสินใจในการซื้อสินค้าของลูกค้าที่ไวขึ้น และให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีต่อสินค้าและบริการ ดังนั้นควรศึกษาและมีความรอบคอบก่อนการตั้งราคาขายเสมอ
หากต้องการเรียนรู้ด้านการขายให้ปิดการขายได้แบบมืออาชีพ YOU MOOC ขอแนะนำคอร์ส “เป็นเถ้าแก่ได้ ต้องขายให้เป็น” ที่จะมาแนะนำวิธีการขายให้กับผู้ประกอบการ หรือผู้สนใจแบบเจาะลึกทีละขั้นตอน
____________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]