ในยุคสมัยที่สังคมดิจิทัลและสื่อโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อทุกวงการ ไม่ว่าจะเรื่องของการขายของ โปรโมทสินค้าและบริการต่าง ๆ มากมาย ทำให้บทบาทของ Influencer และ KOL ต่างก็มีอิทธิพลอย่างแพร่หลาย เพื่อช่วยเป็นการดึงดูดใจ และช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ยิ่งในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้คนหันมาใช้สื่อโซเชียลมีเดียกันมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ยิ่งกับผู้คนที่ผันตัวกลายมาเป็นผู้มีอิทธิพลบนโลกโซเชียลกันอย่างล้นหลาม ด้วยการสร้างคอนเทนต์ให้ผู้คนสนใจและเริ่มติดตาม เมื่อคนติดตามมากขึ้น ทางแบรนด์ก็จะเริ่มให้ความสนใจ และก่อให้เกิดการจ้างให้โปรโมทสินค้าของพวกเขามากยิ่งขึ้น
ทำความรู้จัก Influencer และ KOL เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
Influencer
ผู้มีอิทธิพลทางสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยอาจเป็นผู้ทำคอนเทนต์ที่ลงตามแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Instagram, Facebook, YouTube หรือ Tiktok เมื่อมีผู้ติดตามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอิทธิพลมากเท่านั้น
เช่น รีวิวร้านอาหาร รีวิวคาเฟ่ สอนแต่งตัว อุปกรณ์เครื่องครัว หรือจะเป็นอุปกรณ์แต่งโต๊ะ เหมาะกับการสร้างการรับรู้สินค้าใหม่ ๆ ไม่ต้องใช้ความรู้ในการนำเสนอมาก แต่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่าย
KOL (Key Opinion Leader)
ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด สามารถชี้นำผู้คนได้ ซึ่งในทางการตลาดอาจหมายถึงกลุ่มคนที่มีบทบาทในการทำให้คนจำนวนหนึ่งไปจนถึงคนหมู่มาก เชื่อถือเเละสามารถคล้อยตาม โดยผู้ที่เป็น KOL มักจะต้องเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง
เช่น การรีวิวกล้องถ่ายรูป การรีวิวคอนโด การรีวิวรถยนต์ รีวิวเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก หรือสินค้าที่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะต้องอธิบายที่ดูแล้วรู้ลึก รู้จริง และน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมักจะย้ำคิดอยู่หลายรอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
บทเรียนที่เกี่ยวข้อง: The KOL ขายให้ปังดังและรวย
เหตุผลที่ทุกแบรนด์ควรใช้ในการโปรโมท
1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย / ตรงจุด
เจ้าของแบรนด์จะต้องวางแผนการโปรโมทเอาไว้เป็นอย่างดี ควรจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการโปรโมทคือใคร โดยจะต้องอิงจาก เพศ อายุ การศึกษา ความสนใจ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องรู้จักตัวของบุคคลนั้นเป็นอย่างดี ว่าคนที่เราจ้างให้โปรโมทนั้นมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เหมาะกับกลุ่มลูกค้าประเภทใด เพื่อที่สามารถตีตลาดในกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างความเชื่อถือได้ไว้ยิ่งขึ้น
เนื่องจากการที่มีจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว จึงเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกว่าหากมีการโปรโมทสินค้าและบริการ จะทำให้ผู้คนมีความเชื่อมั่นและเชื่อใจในตัวบุคคลเหล่านั้น ว่าสามารถเชื่อถือได้ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการช่วยให้กลุ่มเป้าหมายไว้วางใจในตัวของสินค้าได้ไวยิ่งขึ้น
3. ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
เนื่องจากรูปแบบการนำเสนอของแต่ละคนมักจะแตกต่างกันออกไป จึงทำให้การรับรู้ข่าวสารมักจะเป็นในรูปแบบของวงกว้าง ยิ่งคนไหนที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และหลากหลาย ก็มักจะทำให้แบรนด์ที่โปรโมทนั้น ไม่เพียงแค่เฉพาะในกลุ่มเป้าหมาย แต่จะเป็นที่รู้จักสำหรับบุคคลทั่วไปมากยิ่งขึ้น
4. เกิดยอดขายสินค้าได้เร็วกว่า
เมื่อผู้มีอิทธิพลทางโลกโซเชียลเหล่านั้นแนะนำสินค้าหรือบริการ ผู้ติดตามก็จะเกิดการรับรู้และเชื่อใจ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจที่เร็วกกว่า จนนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือใช้บริการตาม สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวแบรนด์สามารถปิดการขายได้ภายในเวลาที่น้อยและอาจจะทำให้ยอดขายสูงขึ้นอีกด้วย
5. ค่าใช้จ่ายน้อย
หากเป็นการจ้างบุคคลที่มีผู้ติดตามหลักร้อยถึงหลักพัน ด้วยงบประมาณก้อนเดียวกันกับ Influencer ที่มีชื่อเสียง เจ้าของแบรนด์จะสามารถจ้างได้หลายราย เพื่อสร้างการรับรู้ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลลัพธ์จะคุ้มค่ามากกว่า นอกจจากจะดีลง่ายกว่าแล้ว ยังสามารถตอบรับการทำงานแลกกับสินค้า หรือบริการฟรีได้อีกด้วย
ในปัจจุบันหลากหลายแบรนด์เริ่มมีการโปรโมทสินค้าและบริการผ่านผู้มีอิทธิพลบนโลกโซเชียลเหล่านี้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะใช้ค่าจ้างในปริมาณที่น้อย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือทำให้เข้าถึงง่าย ตีตลาดกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดและสามารถสร้างการรับรู้ให้กับบุคคลโดยทั่วไปได้ง่าย ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไวกว่า ทั้งนี้ตัวแบรนด์จะต้องวิเคราะห์และรู้จักตัวตนของบุคคลนั้นเป็นอย่างดี เพื่อการสื่อสารที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
____________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]