5 ทักษะการเงิน มุ่งสู่ความมั่งคั่ง ที่เราจะนำมาฝากทุกคนกันในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าหลายคนที่เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ หรือเริ่มลงทุนสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็อยากมีความมั่งคั่งทางด้านการเงิน แต่อย่าลืมไปว่า “การลงทุนไม่ได้ทำให้คุณรวย แต่คุณจะรวยจากความรู้ในการลงทุน” เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจึงควร เริ่มต้นให้ถูกวิธี เพื่อการเงินที่มั่นคง ซึ่งสามารถเรียนรู้จากคอร์สของ YOUMOOC ที่เราได้ทำขึ้นมาเพื่อทุกคนกันได้เลย เพราะหนึ่งในความรู้ที่จำเป็นและสำคัญของทุกคนในวันนี้ก็คือเรื่องความรู้ด้านการเงิน แต่คนไทยส่วนใหญ่มักขาดความรู้ด้านการเงินในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ความจริงแล้วเราก็ใช้เงินมากันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่ทำไมเราถึงไม่มีทักษะด้านการเงินกันนะ?

ก็เพราะความรู้ด้านการเงินนั้นเป็นความรู้ที่ประกอบด้วยองค์ความรู้พื้นฐานหลาย ๆ แขนงเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยา บัญชี สถิติ รวมไปถึงเศรษฐศาสตร์ จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเรื่องการเงินนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าเราแยกหัวข้อย่อยของทักษะด้านการเงินออกเป็นแต่ละประเภทก็จะทำให้เราสามารถศึกษา และเพิ่มทักษะทางการเงินได้ง่ายมากขึ้น มาทำความรู้จักกับทักษะการเงินพื้นฐานที่ควรจะมีรวมถึงวิธีพัฒนาทักษะเหล่านั้นกันเลย

5 ทักษะการเงิน มุ่งสู่ความมั่งคั่ง

1. การจัดการสินทรัพย์ และรายรับ-รายจ่าย

คำว่ารายรับ-รายจ่าย ที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง ทุกคนรู้จักกันดี แต่ไม่ค่อยจะมีใครทำกันใช่ไหมล่ะ การทำรายรับ-รายจ่ายส่วนบุคคล เปรียบเหมือนกับบริษัทที่ต้องมีงบการเงิน ซึ่งดูดี ๆ แล้ว ตัวเราเองก็ไม่ต่างจากบริษัท ที่มีรายรับ รายจ่าย สามารถกู้ยืมเงินได้ จำเป็นต้องมีการลงทุนพัฒนาความรู้ ความสามารถโดยคาดหวังว่าในอนาคตจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเราเองก็มีสินทรัพย์เช่น บ้าน ที่ดิน เงินสด เหมือนกับบริษัท ดังนั้นถ้าเราฝึกทำรายรับ-รายจ่าย ตรวจสอบสินทรัพย์ และลงบันทึกให้เรียบร้อยก็จะทำให้เราได้รู้สุขภาพทางด้านการเงินที่แท้จริงของตัวเรา เห็นถึงรายจ่ายว่าเราใช้จ่ายหมดไปกับสิ่งใดบ้าง หนี้สินเรามีจะนำเงินส่วนใดมาปิดหนี้ให้เร็วขึ้นได้ จะทำให้เรามีโอกาสมีเงินออมมากขึ้น และสามารถแบ่งเงินออมไปลงทุนได้ด้วย

การทำรายรับ-รายจ่าย บัญชีทรัพย์สินเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และน่าเบื่อ แต่ถ้าหากคิดว่าเรากำลังฝึกบริหารเงินของธุรกิจขนาดเล็กอยู่ล่ะ? (ซึ่งธุรกิจนั้นนั่นก็คือตัวเราเอง) แล้วถ้าเมื่อวันหนึ่งเรามีธุรกิจของตัวเอง เราก็สามารถเรียนรู้ที่จะบริหารเงิน บริหารสภาพคล่องได้เร็วขึ้น “ถ้าเราไม่สามารถจัดการการเงินส่วนตัวของเราได้ เมื่อรายได้มากยิ่งขึ้น หรือทำธุรกิจ แล้วเราจะทำอย่างไร”

2. Mindset ด้านการเงิน

Mindset ด้านการเงินคืออะไร? แชร์ลูกโซ่ หลอกลงทุน ที่เห็นเป็นข่าวแทบทุกวันมาเป็นระยะเวลาหลายปี หรือจนเป็น 10 ปีด้วยซ้ำ แต่ทำไมทุกวันนี้ยังมีคนถูกหลอก? ก็ยังมีคนหลงเชื่อ ในบางครั้งผู้เสียหายบางคนก็เป็นผู้มีความรู้ มีการศึกษา แต่กลับลงทุนในแชร์ลูกโซ่ต่าง ๆ แน่นอนว่าส่วนใหญ่มาจากผลตอบแทนการลงทุนสูงเป็นหลัก และยังประกาศว่าจะรับประกันเงินต้นอีกด้วย ซึ่งเมื่อถ้าเราเทียบกับเงินฝากธนาคาร หรือการลงทุนในหุ้นแล้วล่ะก็แน่นอนว่าผลตอบแทนของแชร์ลูกโซ่สูงกว่าเยอะมาก บางทีลงทุนไม่ถึงเดือนก็ได้ผลตอบแทนเป็นเท่าตัว

ถ้าเราเข้าใจ และมีทัศนคติการลงทุนที่ดีคำถามเหล่านี้จะขึ้นมาทันที เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงทุกคนรู้กันดีกว่าเงินเป็นสิ่งที่หายาก ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่มีใครสามารถรับประกันการลงทุนได้ ดังนั้นถ้าเราศึกษาการลงทุน อ่านประวัติของนักลงทุนระดับโลกอย่าง วอเร็น บัฟเฟตต์ หรือ ปีเตอร์ ลินซ์ จะทำให้เราได้เรียนรู้การลงทุนที่ผ่านมาในอดีต ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ควรจะได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินแต่ละประเภท รวมไปถึงข้อผิดพลาด และมุมมองต่าง ๆ ที่ใช้ในการตัดสินใจลงทุนด้วย และ MINDSET ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ “เราต้องเชื่อว่าเราสามารถจัดการด้านการเงินในชีวิตของเราได้ แค่เราต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”

3. การบริหารความเสี่ยง

ไม่ว่าเราจะลงทุนประเภทใดก็แล้วแต่ย่อมมีความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ตามมาด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของราคาสินทรัพย์ที่ลงทุน โอกาสที่จะขาดทุน หรือเสียเงินลงทุนทั้งหมดไป หรือแม้แต่ชีวิตเราเองก็มีความเสี่ยงในเรื่องต่าง ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การตกงาน การเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือมีเงินไม่พอเกษียณ เราเคยคิดถึงเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้กันไหม? เราวางแผน และลงมือทำเพื่อรองรับความเสี่ยงเหล่านี้กันหรือยัง? แม้ว่าเราจะไม่มีทางป้องกันความเสี่ยงได้ทั้งหมด แต่เราสามารถลดผลกระทบต่อความเสี่ยงเหล่านั้นได้

ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าจะต้องใช้เงินตอนเกษียณ ปีละ 1 ล้านบาทเราจึงจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เราจึงวางแผนเก็บออม และลงทุน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเกษียณ เรามีเงินใช้ได้เพียงปีละ 6 แสนบาท แม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราวางแผนไว้ แต่เราก็ยังมีเงินปีละ  6 แสนบาท มีโอกาสที่จะปรับรูปแบบการใช้ชีวิต และมีความสุขช่วงวัยเกษียณได้ แต่กลับกันถ้าเราไม่เคยวางแผน ไม่เคยคิดถึงเรื่องเกษียณเลย เราก็มีโอกาสสูงมากที่จะมีชีวิตที่ลำบากช่วงหลังเกษียณ ดังนั้นเราควรต้องวางแผนชีวิตล่วงหน้า คิดไปจนถึงตอนเกษียณว่าเราจะต้องมีเงินเท่าไหร่ก่อนเกษียณ และจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้นมา ส่วนในเรื่องการลงทุนอย่าคิดเพียงแต่ว่าเราจะทำกำไรได้เท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือถ้าขาดทุนแล้วเราจะเดือดร้อนไหม เดือดร้อนขนาดไหน ซึ่งจะทำให้เรารู้ถึงจุดที่เราจะรับความเสี่ยงจากความเสียหายของการลงทุนได้

4. การหาความรู้ด้านการลงทุน

ทุกวันนี้ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการเงิน และการลงทุนต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นต่างประเทศ พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ เป็นต้น การลงทุนแต่ละประเภทใช้ความรู้ ข้อมูลการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา

เนื่องจากการลงทุนในหุ้น คือการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ๆ และการลงทุนในตราสารหนี้ คือการที่เรานำเงินไปให้ธุรกิจนั้นกู้ยืม ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของนโยบายจากภาครัฐ และนโยบายทางด้านการเงินล้วนส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจได้ทั้งแง่บวก และแง่ลบ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นแต่ละธุรกิจก็ไม่เท่ากัน รวมไปถึงการดำเนินกลยุทธ์การแข่งขันทางธุรกิจของคู่แข่ง หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมกระทบต่อการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การติดตามข่าวสารต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นของนักลงทุน

5. เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี

เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วข้อมูลทางด้านการลงทุนเป็นสิ่งที่หายาก และไม่แพร่หลาย จะลงทุนแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้น และใช้เวลานาน แต่ปัจจุบันนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นได้ภายในไม่กี่วัน สามารถเลือกซื้อ-ขายหุ้นได้เองบนมือถือ ค่าธรรมเนียมก็ต่ำ ถือว่าโอกาสในการลงทุนอยู่ในมือเราเอง แต่เมื่อพูดถึงโอกาสในการลงทุนแล้ว การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในอุตสาหกรรมการลงทุน แต่เปลี่ยนในทุกอุตสาหกรรมมากน้อยแตกต่างกันออกไป หรือแม้แต่รูปแบบการใช้ชีวิตของเราที่ใช้เวลากับมือถือมากขึ้น การซื้อของผ่านออนไลน์ การทำงานโดยเก็บข้อมูลผ่าน CLOUD COMPUTING แทนการเซฟไว้ในอุปกรณ์ของเรา แต่รู้หรือไม่ว่ากำลังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่บริษัททั่วโลกกำลังเร่งพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไร้คนขับ ระบบ AR/VR หุ่นยนต์ AI ระบบการเงินบน BLOCKCHAIN อุปกรณ์ IOT AUTOMATION ถ้าเราศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้อาจทำให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือธุรกิจเพื่อลดต้นทุนประหยัดเวลา หรืออาจจะศึกษาหุ้นเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ให้ตัวเองก็ได้

ซึ่ง 5 ทักษะที่แอดมินเอามาฝากทุกคนกัน เป็นทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ทุกคนมีเงินเก็บที่นำไปสู่ความมั่งคั่งได้ หากอยากเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมขอแนะนำคอร์สนี้เลย เริ่มต้นให้ถูกวิธี เพื่อการเงินที่มั่นคง

__________________________________________________________________________

ช่องทางติดตามอื่น ๆ  
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]