พัฒนาบุคลิกภาพ จากภายในสู่ภายนอก การที่เรามีบุคลิกภาพที่ดีนั้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเราดีตามไปด้วย เริ่มจากการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี มีการแต่งตัวที่สะอาดสะอ้าน รักษาความสะอาดของร่างกาย นอกจากนี้เราทำให้ภายนอกเราดูดีได้ก็ต้องรักษาใจ ให้มีสุขภาพจิตที่ดีเสมอ ไม่คิดลบ และมองหาสิ่งที่สร้างสรรค์ให้กับชีวิต
เรียนรู้เพิ่มเติม : TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!
1.การมีทัศนคติที่ดี
ทัศนคติที่ดีนั้นไม่สามารถบังคับกันได้ แต่สามารถชี้แนะและทำให้เห็นเป็นแบบอย่างได้ ซึ่งแต่ละคนต่างมาจากครอบครัวที่อบรมสั่งสอนไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่เราทำได้คือการมีทัศนคติที่ดี การมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มีเหตุและผลในการกระทำที่คำนึงถึงผู้อื่นเสมอ
“การมองโลกในแง่ดี” ไม่ได้แปลว่า “โลกสวย” แต่เป็นการจัดการอารมณ์และความคิดที่ไปเจออะไรไม่ดีหรือรู้สึกแย่นั้น ให้ดีขึ้น ซึ่งหากเรามองแต่ข้อเสีย แต่ไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นให้ประโยชน์หรือสอนอะไรเราบ้าง ยกตัวอย่างเช่น วันนี้แดดร้อนมาก ๆ แต่ข้อดีคือดีต่อการตากผ้า หรือ ในวันที่ฝนตก เราอาจจะเปียกปอน แต่ข้อดีของมันคือทำให้แม่น้ำ หรือ ต้นไม้ได้รับน้ำเพื่อเติบโตต่อไป
หากเราเอาวิกฤตที่เราเจอมาพลิกให้เป็นโอกาส ก็สามารถทำให้ชีวิตเราดำเนินต่อไปโดยที่ไม่ต้องคิดเสียดายความหลัง เพราะเราเต็มที่ในทุก ๆ อย่าง และพยายามถึงที่สุดของความสามารถเราแล้วจริง ๆ
เรียนรู้เพิ่มเติม : TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!
2.การดูแลสุขภาพ
พัฒนาบุคลิกภาพ จากภายในสู่ภายนอก ร่างกายของคนเรานั้นมีวันเสื่อมสภาพไป ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น การกิน การใช้ชีวิต ก็ควรคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในอายุที่เรายังดื่มไหว เราอาจจะไม่คิดว่าผลเสียของมันมีอะไรบ้าง เพราะผลของมันยังไม่แสดงผลให้เราเห็น แต่หากอายุเยอะขึ้น โรคต่าง ๆ ก็จะรุมเร้าได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เลย
เราควรเริ่มต้นจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ กินให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักเกินมาตราฐานที่ไม่ควรเกิน เพราะหากเราไม่คุมน้ำหนัก ในอนาคตจะทำให้การลดน้ำหนักนั้นยากกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากอายุมากขึ้น การเผาพลานก็น้อยลง ซึ่งยากลำบาก ดังนั้นต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อในอนาคตเราจะได้สบาย
เรียนรู้เพิ่มเติม : TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!
3.การพูด
ทักษะสำคัญอีกอย่างที่ต้องพัฒนา หากเรารู้ตัวว่าไม่กล้าพูดต่อหน้าผู้คน ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้จับไมค์ หรือแม้กระทั่งการแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม ซึ่งหากเราไม่ฝึกการพูด การทำงาน หรือแม้กระทั่งการเรียน ก็อาจจะลำบากได้ในอนาคต เพราะเราต้องพูด และ แสดงความคิดเห็นในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
เริ่มจากการฝึกแนะนำตัวให้กระชับและเข้าใจง่ายมากที่สุด โดยฝึกพูดหน้ากระจกก่อนหากเรายังไม่พร้อม และค่อย ๆ เริ่มจากให้คนในครอบครัวมาลองนั่งฟังเราแนะนำตัว จากนั้นลองพยายามฝึกอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ และหากเราใช้ภาษากายเข้าช่วยในระกว่างการอธิบาย ก็จะทำให้คนฟังคล้อยตามได้ง่าย
“พูดในสิ่งที่คนอื่นอยากฟัง” ไม่ใช่ “พูดทุกอย่างที่คิด” คำนี้อาจใช้ได้ในเกือบทุกสถานการณ์เลยก็ว่าได้ เพราะทุกคนไม่ได้พร้อมที่จะฟังคำพูดที่ตรงและแรง เพราะสภาพจิตใจของคนเราไม่ได้เหมือนกัน หากเราต้องการพูดกับใคร ก็ควรหาคำพูดที่เหมาะกับผู้ฟัง ซึ่งอาจจะรวมไปถึงการแนะนำหรือเตือนในสิ่งที่คนอื่นทำผิด หากเราไม่ใช้คำพูดที่ดี คน ๆ อาจจะจำฝังใจกับคำพูดของเราไปตลอดเลยก็ว่าได้
เรียนรู้เพิ่มเติม : TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!
4.การฟัง
การฟังที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ที่เราต้องพัฒนาและฝึกความอดทนพอสมควร เพราะมนุษย์เรามักจะชอบฟังทุกอย่างที่เราอยากจะรู้ ซึ่งในบางครั้งเราก็ต้องยอมรับและเข้าใจว่า มนุษย์เราต่างคนต่างที่มา ไม่ว่าจะเป็นภาษา หรือประสบการณ์ในชีวิตที่เคยประสบพบเจอ ซึ่งเราต้องเข้าใจและยอมรับในข้อนี้
หากเราเป็นแค่ผู้ที่”พูดเก่ง” แต่ “ฟังไม่เป็น” นั้น มักส่งผลเสีย และสร้างความเข้าใจผิดให้คู่สนทนาได้ เพราะเราเอาแต่พูด แต่ไม่ยอมฟังปัญหา หรือคำแนะนำเลย หากเป็นอย่างนั้น บทสนทนาก็คงไม่ราบรื่นและไม่สามารถพูดคุยกันได้อีกครั้ง เนื่องจากคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่คู่สนทนาจะสื่อสารเลย
การรับฟังนอกจากจะช่วยให้คู่สนทนานั้นสบายใจแล้ว ยังสามารถทำให้เราเอาปัญหานั้น มาคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และสามารถหาคำตอบที่คู่สนทนาต้องการได้ เปรียบเทียบง่าย ๆ กับการทำงาน หากลูกค้าต้องการอะไร เราก็ต้องถามเพื่อที่จะได้คำตอบ และนำมาปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้เป็นไปตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
สำหรับผู้ที่เป็น KOL หรืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับด้านการขาย การเรียนรู้เรื่องการ TIE-IN สินค้า หรือการนำเสนอสินค้าให้ดูมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานทางด้านนี้ การนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจจะสามารถช่วยเรื่องการตัดสินใจต่อการซื้อของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
การนำเสนอสินค้าควรทำความเข้าใจและรู้จักข้อมูลของสินค้า มอบข้อมูลแก่ลูกค้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีความมั่นใจในการนำเสนอ เพราะความมั่นใจของผู้ขายจะสามารถสร้างความมั่นใจต่อผู้ซื้อได้ด้วยเช่นกัน
สิ่งที่คุณจะได้เรียนในคอร์สนี้
1. วิธีการนำเสนอสินค้าให้น่าดึงดูด
2. วิธีการตอบคำถามให้ดูเป็นมืออาชีพ
3. วิธีการโพสต์ท่ากับสินค้าสำหรับภาพนิ่งให้ดูโดดเด่น
คอร์สนี้เหมาะกับ
1. ผู้ที่ต้องการพัฒนาด้านการพูดให้เป็นมืออาชีพ
2. ผู้ที่อยากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
3. ผู้ที่เรียนรู้วิธีการโพสต์ถ่ายภาพนิ่งให้ดูดี
4. ผู้ที่อยากทำงานทางด้าน Influencer และ KOL
—————————————————————————————————————–
ช่องทางติดตามอื่น ๆ
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]