Soft Skill (ซอฟต์สกิล) และ Hard Skill (ฮาร์ดสกิล)ในยุคของการทำงานหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่ง Hard Skill นั่นคือทักษะเฉพาะทางสำหรับอาชีพ หรือความชำนาญด้านใดด้านหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากภายในห้องเรียน หรือศึกษาที่อื่นเพิ่มเติมซึ่งเน้นไปที่ทักษะความรู้ความสามารถชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น การตลาด การขาย การสร้างเว็บไซต์ ส่วน Soft Skill จะเกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ หรือที่เรียกกันว่า EQ (Emotional Quotient) นั่นเอง
สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ หรือบุคคลทำงานที่นอกจากทักษะ Hard Skill ที่จำเป็นสำหรับการทำงานแล้ว ยังต้องมีทักษะ Soft Skill เพิ่มเติมเข้าไปด้วยเพื่อช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทักษะนั้นมีอะไรบ้าง YOU MOOC ขอแนะนำให้ทุกคนมารู้จัก 7 ข้อด้วยกัน…
7 Soft Skill ที่คนทำงานยุคใหม่ต้องมี

1. ความคิดสร้างสรรค์ – Creativity
ความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นทักษะที่ดีที่สุดของซอฟต์สกิลเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นทักษะที่ไม่มีหลักสูตรตายตัว และทุกคนก็สามารถฝึกฝนได้จากการช่างสังเกต ความอยากรู้อยากเห็น ชอบคิดและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่เพียงความคิดทางด้านศิลปะเท่านั้น ยังรวมไปถึงการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาช่วยเสริมการทำงาน และยิ่งเป็นผู้ประกอบการด้วยแล้วนั้นการมีทักษะความคิดสร้างสรรค์ยังสามารถช่วยในการคิดแคมเปญโฆษณาการตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการรวมถึงการคิดแผนใหม่ ๆ ที่จะใช้ผลักดันธุรกิจได้อีกด้วย ด้านนักจิตวิทยาพบว่าบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์นั้นมักจะมีคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับความสามารถคือ ความฉลาด, ความเอาใจใส่, ความสามารถที่ตอบสนองความคิดได้คล่องแคล่ว,ปรับสภาพความคิดได้ง่าย และมีความคิดริเริ่ม
2. การสื่อสาร – Communication
ทักษะการสื่อสารนั้นเป็นทักษะที่ต้องใช้อยู่เสมอ เพราะสำหรับชีวิตประจำวันหรือการทำงานนั้นย่อมมีการติดต่อสื่อสารกันตลอดในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดก็ตาม ทั้งผู้ประกอบการ หัวหน้างาน หรือพนักงาน รวมถึงการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการ ดังนั้นการสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพย่อมต้องสื่อสารให้ตรงจุด ไม่ตกหล่นใจความสำคัญของเนื้อหานั้น ๆ อีกทั้งต้องถูกต้องและชัดเจน รวมไปถึงการใช้วาทศิลป์ในการสื่อสารด้วย รู้ว่าควรใช้ภาษาแบบใดในการสื่อสารเพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การเจรจาต่อรอง – Negotiation
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการใช้หุ่นยนต์ AI หรือ Bot ในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาใช้ในธุรกิจแล้ว แต่การเจรจาโดยใช้บุคคลก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต่อให้หุ่นยนต์จะทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่การที่มนุษย์ไปพูดคุยกับลูกค้าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นยังดีกว่าการใช้หุ่นยนต์ เพราะมนุษย์มีความยืดหยุ่นกว่า ยิ่งกับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจแล้วทักษะนี้ถือว่าเป็นอาวุธสำคัญในการโน้มน้าวใจลูกค้า เพื่อเสนอขายสินค้าและนำไปสู่การปิดการขายได้ โดยทักษะนี้มักใช้ควบคู่ไปกับทักษะการสื่อสาร และทักษะความคิดสร้างสรรค์ที่จะหยิบข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ต่อรองให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับธุรกิจหรือองค์กร สำหรับการเจรจาต่อรองให้สำเร็จจะมีข้อสำคัญคือ เข้าใจวัตถึประสงค์ของการเจรจา, การเตรียมตัววางแผน, รู้เขารู้เรา, สร้างความสำพันธ์แบบได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย, ฟังอย่างตั้งใจระหว่างการเจรจาต่อรอง, สร้างความน่าเชื่อถือ และมุ่งเน้นที่คุณค่า
4. การคิดเชิงวิเคราะห์และเลือกตัดสินใจ – Critical Thinking and Decision-making
ในยุคที่ข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และมีจำนวนมหาศาลทั้งข้อมูลชุดเก่าที่ต้องค้นคว้า และข้อมูลใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน การคิดเชิงวิเคราะห์นั้นจะทำให้สามารถช่วยย่อยข้อมูลที่มีอยู่มากให้เข้าใจได้ง่าย สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อสรุปผลลัพธ์จากสิ่งที่รู้ และเข้าใจวิธีใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อแก้ปัญหาได้ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เลือกวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจเพื่อให้ธุรกิจหรือบริการของเรานั้นเกิดประโยชน์สูงสุด

5. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน – Complex Problem Solving
หนึ่งในทักษะที่ถูกยกย่องว่าสำคัญในปัจจุบัน เพราะโลกในปัจจุบันกำลังเข้าสู่การเป็นโลกที่ยุ่งเหยิง และนั่นทำให้ปัญหาของธุรกิจต่าง ๆ เข้าสู่ Complex Problem มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเรื่องการตลาด การขาย การดำเนินงาน การจัดการต่าง ๆ จึงทำให้ Complex Problem Solving กลายเป็นทักษะที่ถูกหยิบมาพูดถึง จากที่เราถูกปลูกฝังกันมาในการแก้ปัญหาแบบ How-to คือที่มีขั้นตอนสำหรับการแก้ปัญหามาอยู่แล้ว แต่สำหรับ Complex Problem Solving คือการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนด้วยการค้นหาสาเหตุต้นตอของปัญหา วิเคราะห์ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบและปัจจัยต่าง ๆ ในระบบหรือโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และป้องกันการเกิดปัญหานั้นซ้ำขึ้นมาอีก ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความซัยซ้อนสูงซึ่งมักเกิดขึ้นในการบริหารงาน การทำธุรกิจ หรือการทำงานในองค์กร
6. การบริหารเวลา – Time Management
ทักษะที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทักษะนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและผ่านไปไวมาก บางคนที่ชอบบอกว่าใน 1 วันมีเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงได้หรือไม่ เพราะเวลาไม่เคยพอ นั่นอาจเป็นเพราะยังขาดทักษะสำหรับการบริหารเวลาที่ถึงแม้จะไม่ใช่ทักษะไกลตัว แต่ก็เป็นทักษะที่ทำได้ไม่ง่าย ซึ่งการบริหารเวลานั้นจะส่งผลต่อความสำเร็จของเราได้ ทำให้เรามีความเป็นมืออาชีพ ดำเนินการทำงานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนดไว้ สำหรับเทคนิคการบริหารเวลาเริ่มต้นจากการตื่นนอน หากเราตื่นนอนในเวลาเช้าจะทำให้เรามีเวลาในการทำอย่างอื่นมากขึ้น, การทำตารางงานที่ต้องทำในแต่ละวันจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของสิ่งที่ต้องทำ, การทำงานที่ยากที่สุดก่อนถือว่าเป็น Challenge อย่างหนึ่งหากเราทำสำเร็จจะมีความโล่งใจ สบายใจมากยิ่งขึ้น, จัดลำดับความสำคัญไม่ใช่การเลือกทำงานที่ยากที่สุดก่อนแต่เป็นการบริหารการทำงานให้มีประสิทธิภาพในเวลาที่จำกัด, ทำงานให้เสร็จเป็นงาน ๆ ช่วยในเรื่องของการโฟกัส เพราะถ้าเราทำหลาย ๆ งานสลับกันไปกันมาจะทำให้เรามีสมาธิไม่พอสำหรับงานนั้น, มีเวลาพักจาก Social Media เพราะการเล่นโซเชียลนั้นทำให้เราเสียเวลาทำงานไปโดยไม่รู้ตัว และจัดสรรเวลาส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำสิ่งที่ทำให้เราผ่อนคลาย

7. ทักษะการเป็นผู้ฟังที่ดี – Active Listening
นอกจากการเป็นผู้พูดที่ดีแล้วการเป็นผู้ฟังที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หลายคนอาจคิดว่าเพียงแค่มีเวลาฟังผู้พูดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่การฟังเฉย ๆ แต่เป็นการกระทำด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย 3A Attitude (ทัศนคติ) การที่ยอมเปิดใจรับฟังโดยปราศจากอคติ เพราะจะทำให้สามารถฟังเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างเข้าใจผู้พูดได้จริง ๆ , Attention (ความสนใจ) ตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดรอฟังเหตุผลและเรื่องราวทั้งหมดของอีกฝ่ายให้จบก่อนนำมาคิดและประมวลผลตาม และ Adjustment (การปรับตัว) รับฟังทุกอย่างแล้วควรปรับอารมณ์และความคิดให้เหมาะสม และเลือกวิธีการตอบโดยไตร่ตรองก่อน
เคล็ดลับในการฝึกตัวเองให้มี Soft Skill
- หมั่นเข้าสังคม การเข้าสังคมบ่อย ๆ เป็นส่วนช่วยในการเพิ่มทักษะการสื่อสาร การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน และฝึกการตัดสินใจได้
- ถามคนใกล้ชิดถึงข้อดีข้อเสียของตนเองเพื่อนำมาปรับปรุงตัวเอง
- หมั่นฝึกการวางแผนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการทำงานในแต่ละวันของตัวเอง หรือการบริหารจัดการในธุรกิจหรือองค์กร
- สังเกตตนเองเมื่อได้รับคำวิจารณ์หรือเจอปัญหาว่าเรามีวิธีรับมือและแก้ปัญหาอย่างไร หลังจากนั้นก็เก็บมาวิเคราะห์เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
เรียนรู้ทักษะและวิธีการพรีเซนต์งานอย่างไรให้ได้ใจเจ้านายและลูกค้ามากขึ้นกับคอร์ส
Story Telling – The Key Differentiation for Modern Day Leaders
__________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่น ๆ
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
Shopee: YOU MOOC
Lazada: YOU MOOC