จิตวิทยา การพูด พูดอย่างไรเพื่อให้คนตัดสินใจซื้อ

จิตวิทยา

Share This Post

Share on facebook
Share on linkedin
Share on twitter
Share on email
Previous
Next

จิตวิทยา คือศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ, กระบวนการคิด และพฤติกรรมของมนุษย์ จิตวิทยา ยังมีความหมายรวมไปถึงการประยุกต์ใช้ความรู้กับกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมที่เกิดขึ้น, ความคิดสติปัญญา, อารมณ์ รวมถึงการตัดสินใจ

ในส่วนของลูกค้าหรือผู้บริโภค เองนั้นก็มีปัจจัยที่เป็นอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้าแต่ละครั้งเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ความเชื่อและทัศนคติ ซึ่งหมายถึงความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ความเชื่อนั้นอาจเป็นส่วนประกอบที่ช่วยเสริมสร้างทัศนคติของผู้บริโภค แต่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับความชอบหรือไม่ชอบที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยที่ความเชื่อของผู้บริโภคนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการได้พูดคุยกับผู้บริโภคอื่น ๆ ก็ได้ โดยที่ความเชื่อสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรก ได้แก่ ความศรัทธา ความรัก ความชื่นชม ซึ่งจะนำไปสู่พฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น การยอมรับ, ความร่วมมือ, การช่วยเหลือ และการลงมือปฏิบัติ  ส่วนความเชื่ออีกรูปแบบ จะนำไปสู่พฤติกรรมที่แสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เช่น รู้สึกผิด เจ็บใจ และวิตกกังวล เป็นต้น  ส่วนทัศนคติ หมายถึงแนวความคิดหรือท่าทีของผู้บริโภคที่มีต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ทางด้านของ ผู้ขาย KOL และ Influencer ก็สามารถนำเทคนิคทางจิตวิทยามาใช้เพื่อมาโน้มน้าวให้ลูกค้าหรือผู้ติดตามสามารถอยากซื้อสินค้าเหล่านั้นได้เช่นกัน ยิ่งถ้าเราเป็นมือใหม่มาก ๆ สิ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม ให้คล่องแคล่วในทุกประเด็น ซึ่งต้องอธิบายได้ว่า “ต้องการอะไร, ทำไม, อย่างไร และเพื่ออะไร”

สิ่งที่สำคัญที่มักจะลืมกันในการนำเสนอ คือหัวใจการกระตุ้น หรือเร้าให้ผู้ที่ดูอยู่ตัดสินใจในการซื้อ หรือเห็นความชัดเจน จนมั่นใจในการตัดสินใจตามที่เรานำเสนอหรือชี้นำให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต่อการตัดสินใจของเขาซึ่งมีเทคนิคดังนี้

เทคนิคในการพูดเชิง จิตวิทยา

จิตวิทยา2

1. กระตุ้นให้เกิดความอยาก

เราต้องพยายามนำเสนอสิ่งที่เป็นจุดแข็ง รวมถึงจุดขายที่โดนใจลูกค้า หรือคนดูให้เกิดความรู้สึก อยากมี อยากได้ อยากเป็นเจ้าของสินค้าชิ้นนี้ ฯลฯ เราจึงต้องนำเสนอถึงคุณสมบัติที่ดี วิวัฒนาการที่ล้ำหน้า พัฒนามามากขนาดไหน ของสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นมีอะไรบ้าง โดยให้นึกถึงความรู้สึกและความต้องการของลูกค้า หรือให้ลองสมมุติว่าตัวเองเป็นลูกค้าที่ต้องการซื้อของ ว่าเราต้องการรู้ข้อมูลใดบ้างจากผู้ขาย แล้วพูดในมุมที่ลูกค้าอยากได้ยิน ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากพูด ซึ่งการที่เราพูดในมุมมองลูกค้านั้นจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าได้

2. ชี้ให้เห็นความสำคัญ

สินค้าหลายชนิดหรือเรื่องราวที่เราเห็นผ่านตาหลายเรื่อง ถ้ามองผิวเผิน หรือไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก เราก็มักไม่ค่อยให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ แต่ในมุมของเราที่เป็นผู้นำเสนอสินค้าแล้วเราต้องชี้ให้ลูกค้า หรือผู้ชมเห็นจุดที่สำคัญ ๆ จุดต่าง ๆ ที่สัมผัสได้และเป็นจริงให้ผู้ที่ฟังอยู่คล้อยตามไปกับเราได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความสำคัญ” ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ จนความคิดเห็นคล้อยตามเราที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด

จิตวิทยา3

3. เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง

การที้เราจะอธิบายหรือเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างสิ่งที่เราจะพูดถึงกับสิ่งที่มีโดยทั่วไป โดยที่เราต้องมีข้อมูลเชิงลึกทั้งสินค้าของเราเอง และสินค้าที่เป็นคู่แข่งในท้องตลาด เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกของทั้งสองมาเปรียบเทียบ ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแตกต่าง โดยเฉพาะความแตกต่างที่เป็นข้อดีของสินค้าเราที่คู่แข่งไม่มี เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้เกิดขึ้น เพราะบางครั้งลูกค้าอาจมีคำถามเกิดขึ้นว่าทำไมสินค้าของเราถึงมีราคาสูงกว่าของคนอื่น เราจึงต้องเปรียบเทียบคุณสมบัติที่ดีกว่าของสินค้าเราให้ลูกค้ามองเห็นถึงความแตกต่างที่สินค้าเรามี แต่สินค้าแบรนด์ของคู่แข่งในตลาดไม่มี

4. ชี้ให้เห็นถึงความดีกว่า เหนือกว่า คุ้มค่ากว่า

การที่เราชี้ให้เห็นสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องพูดโดยยึดหลักของความเป็นจริงของสินค้าด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเราอาจโดนว่าทีหลังก็ได้ เราจึงควรพูดเชิงเปรียบเทียบให้เห็นว่า “ดีกว่าอย่างไร เหนือกว่าอย่างไร หรือคุ้มค่ากว่าตรงไหน” อย่างเช่น ดีกว่าด้านคุณภาพ, คุ้มค่ากว่าในด้านราคา, เหนือกว่าในด้านนวัตกรรมที่นำมาใช้ การแยกเป็นประเด็นแบบนี้จะทำให้ลูกค้าเห็นความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีอารมณ์คล้อยตาม ในสิ่งที่เราจะนำเสนออย่างเป็นเหตุเป็นผล

จิตวิทยา4

5. ขู่ให้กลัว

เคล็ดลับข้อสุดท้าย ถือเป็นสุดยอดของการใช้ศิลปะในการนำเสนอให้ลูกค้าหรือผู้ชมตัดสินใจได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น แต่เราต้องใช้เทคนิคนี้อย่างมีศิลปะโดยให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่ากำลังถูกขู่เหมือนโดนบังตับให้ซื้อสินค้า อย่างเช่น

  • มีดีกว่าไม่มี
  • ซื้อดีกว่าไม่ซื้อ
  • ถ้าซื้อที่อื่นอาจไม่ดีเท่าที่ซื้อกับเรา

ประโยคเหล่านี้ถือว่าเป็นประโยคที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกกังวลใจ หากไม่ตัดสินใจตามที่เรานำเสนอไป ในทางตรงกันข้ามเราก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจ พอใจ หากตัดสินมจตามที่เราอธิบายให้ฟัง

การใช้เทคนิคทั้ง 5 ข้อนี้เราก็ต้องนำไปใช้อย่างกลมกลืนและมีประสิทธิภาพ และหากเราจะทำการแฝงโฆษณาสินค้าเหล่านั้นเราก็ควรนำเสนอโดยใช้เทคนิคเหล่านี้ให้กลมกลืน ไม่ใช่การพูดโดยใช้ 5 เทคนิคนี้แบบโต้ง ๆ อยากเรียนรู้การ Tie-in ให้ปังต้องไม่พลาดกับคอร์ส

TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!

คอร์สที่จะมาสอนในเรื่องของ

1.  วิธีการนำเสนอสินค้าให้น่าดึงดูด 

2.  วิธีการตอบคำถามให้ดูเป็นมืออาชีพ

3.  วิธีการโพสต์ท่ากับสินค้าสำหรับภาพนิ่งให้ดูโดดเด่น

คอร์สนี้เหมาะกับใคร

1.  ผู้ที่ต้องการพัฒนาด้านการพูดให้เป็นมืออาชีพ 

2.  ผู้ที่อยากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

3.  ผู้ที่เรียนรู้วิธีการโพสต์ถ่ายภาพนิ่งให้ดูดี 

4.  ผู้ที่อยากทำงานทางด้าน Influencer และ KOL

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

สร้างกำไรให้การขายแบบ E-Commerce

ทักษะการขายยุคใหม่ ขายอย่างไรให้ได้ใจลูกค้า

__________________________________________________________________________

ช่องทางติดตามอื่น ๆ  
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
Shopee: YOU MOOC
Lazada: YOU MOOC

Previous
Next

More To Explore

คอร์สใหม่ล่าสุด

ทรานฟอร์มธุรกิจมาติดล้อ (The Revolution: Business on Wheels)

ความยาว

1-2 ชม.

Intro_To_DS_Cover_Photo

เริ่มต้นเรียนรู้ Data Science เพื่อก้าวเข้าสู่นักวิจัยข้อมูล

เริ่มต้นเรียนรู้ด้าน Data Science แบบเข้มข้น

ความยาว

7-8 ชม.

Bussiness Tools

ใช้เครื่องมือบริหาร ทำงานได้ร้อยเท่า

เรียนรู้ความสำคัญของระบบ IT ต่อธุรกิจ

ความยาว

1-2 ชม.

เป็นเถ้าแก่ได้ ต้องขายให้เป็น

เรียนรู้เรื่องการขายและบริหารธุรกิจ

ความยาว

1-2 ชม.

Story Telling – The Key Differentiation for Modern Day Leaders

เรียนรู้ทักษะและวิธีการพรีเซนต์งานอย่างไรให้ได้ใจเจ้านายและลูกค้า

ความยาว

1 ชม.

เจาะลึกวิธีการบริหารเงิน (ฉบับคนไม่จบการเงิน)

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องบัญชี การเงิน และภาษี แบบไม่ซับซ้อน

ความยาว

1-2 ชม.

THE KOL

The KOL: ขายให้ปัง ดังและรวย (ครบถ้วนทุกบทเรียน)

เคล็ดลับการก้าวเข้าสู่อาชีพ KOL อย่างมั่นใจและมืออาชีพ

ความยาว

11-12 ชม.

Insight for KOL

เจาะ Insight นักธุรกิจ เลือก KOL อย่างไร?

ประสบการณ์และมุมมองนักธุรกิจ มีวิธีเลือก KOL อย่างไร

ความยาว

1-2 ชม.

Start Business

เริ่มต้นให้ถูกวิธี เพื่อการเงินที่มั่นคง

การบริหารจัดการการเงินอย่างเข้าใจและถูกวิธีสำหรับ KOL

ความยาว

1 ชม.

Ecommerce

กลยุทธ์สร้างยอดขาย สไตล์ e-Commerce

เรียนรู้เทคนิคการสร้างธุรกิจแบบ e-Commerce

ความยาว

1 ชม.

Grow Business

ธุรกิจเติบโตด้วย Marketing, Brand & Sales

เรียนรู้ด้านการตลาดอย่างเข้มข้น

ความยาว

1 ชม.

นำเสนออย่างไร ได้ทั้งใจ . งาน . เงิน

เจาะลึกเรื่องการนำเสนอและเทคนิคการเจรจา

ความยาว

1 ชม.

Posture

TIE-IN สินค้าอย่างไร ให้ปัง!

วิธีการ TIE-IN สินค้าอย่างมืออาชีพ

ความยาว

1 ชม.

Content Tie-ins

มาดดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

เรียนรู้เรื่องบุคลิกภาพให้ดูดี

ความยาว

1 ชม.

Personality

บุคลิกเรียกทรัพย์ สำหรับคนอยากเป็น KOL

เริ่มการพัฒนาบุคลิกภาพอย่างเจาะลึก

ความยาว

1 ชม.

Live Streaming

Live ทั้งที ภาพต้องดี เสียงต้องปัง

วิธีการทำ Livestream อย่างมืออาชีพ

ความยาว

1 ชม.

Create content

คนรุ่นใหม่ รวยได้ด้วย Content

เรียนการสร้างคอนเทนต์ให้ดี ปัง โดน

ความยาว

1 ชม.

TIk TOK for pros

TikTok: เริ่มต้นง่ายๆ กับแพลตฟอร์มออนไลน์สุดฮอต

เรียนรู้การใช้ฟังก์ชั่น TikTok อย่างเจาะลึก

ความยาว

1 ชม.

Business through social media

สร้างธุรกิจจากการสร้างตัวตนบน Social Media

วิธีการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ให้เป็นที่รู้จัก

ความยาว

1 ชม.

Know how to social media

รู้จักใช้ Social Media ให้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้

ปูพื้นฐานเรื่องแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเจาะลึก

ความยาว

1 ชม.