ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพที่มาแรงในตอนนี้คือ ค้าขายออนไลน์ การค้าขายแบบ e-Commerce ที่ให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ค้าขายกันง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ผู้คนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่าง ๆ ส่งผลให้การซื้อขายบนช่องทางออนไลน์มีมากยิ่งขึ้น e-Commerce และธุรกิจโลจิสติกส์ก็เติบโตขึ้นไปพร้อม ๆ กัน จึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนส่วนใหญ่จะหันมาทำอาชีพ ค้าขายออนไลน์ กันมากยิ่งขึ้น
เพราะสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มในปัจจุบัน ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์และช่วยซัพพอร์ตพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต่าง ๆ ในด้านการค้าขายที่มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้าที่เข้ามาเลือกชมเลือกซื้อสิ่งขายภายในร้านได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงบริการการชำระเงินที่มีทั้งการตัดบัตร โอนผ่าน ATM ผ่านระบบ Payment ของแพลตฟอร์ม หรือแม้กระทั่งการชำระเงินปลายทางก็สามารถทำได้
แต่ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ค้าบางคนที่เพิ่งเริ่มทำการค้าขาย ก็ยังไม่รู้วิธีบริหารการเงิน จนในบางครั้งก็เกิดคำถามที่ว่า “เงินที่ขายของได้หายไปไหนหมด?”
โดยสำหรับคนที่ทำอาชีพค้าขายออนไลน์ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ “สภาพคล่องทางการเงิน” ซึ่งจำเป็นที่จะต้องนำเงินที่ได้จากการค้าขายมาหมุนเงินเพื่อที่จะได้ซื้อสินค้าใหม่มาขายต่อ ซึ่งเงินที่ได้มาจะต้องหักกำไรและค้าใช้จ่ายต่าง ๆ ในครั้งก่อนออกไปด้วย
วันนี้ YOU MOOC เลยมีข้อดีข้อเสียของการขายออนไลน์ และวิธีการบริหารการเงินสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาฝากกันค่ะ
ข้อดี-ข้อเสีย ของการค้าขายออนไลน์
ข้อดี
- ต้นทุนการขายต่ำ ในบางครั้งอาจจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนในส่วนของการเดินทางไปซื้อของเลย เพราะสมัยนี้เราสามารถสั่งสินค้าขายส่งบนเว็บไซต์ได้แล้ว
- ติดต่อกับลูกค้าได้ง่าย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถตอบได้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต
- เป็นนายตัวเอง แถมยังทำงานด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องจ้างลูกจ้าง
- มีเครื่องมือที่สามารถทำการวิเคราะห์และช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- เปิดร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดปิดหน้าร้าน
- ไม่ต้องมีสต็อกก็ขายของได้
- เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
ข้อเสีย
- มีการแข่งขันที่สูง อาจจะทำให้โดนตัดราคาได้ง่าย
- ผู้ซื้อ-ผู้ขาย จะต้องมีความเข้าใจในการใช้เครื่องมือบนแพลตฟอร์มการขายนั้น ๆ
- สินค้าจับต้องไม่ได้ ทำได้แค่เพียงแสดงรูปภาพหรือวิดีโอ
- มีระยะเวลาในการจัดส่งซึ่งของจะถึงมือลูกค้าช้า และอาจมีการชำระค่าจัดส่งเพิ่มเติม
เรียนรู้การทำธุรกิจแบบ e-Commerce ได้ที่ กลยุทธ์สร้างยอดขายสไตล์ e-Commerce
สำหรับการค้าขายออนไลน์ จะมีวิธีการดูแลบริหารการเงินยังไง เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
- แยกบัญชีร้านค้ากับบัญชีส่วนตัว
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการแยกบัญชีให้ชัดเจน แยกบัญชีธุรกิจกับบัญชีใช้จ่ายส่วนตัวเพื่อไม่ให้ปนกัน และสามารถคำนวณรายรับ กำไรที่ได้จากการขายได้โดยง่าย และเงินหมุนสำหรับการทำธุรกิจจะต้องมาจากเงินปันผลของธุรกิจเท่านั้น โดยในช่วงแรกอาจจะไม่สามารถที่จะตั้งจำนวนเงินเดือนได้ แต่เมื่อค้าขายไปสักพัก กิจการเริ่มมีกำไร ก็ควรตั้งเป้าหมายเงินเดือนให้ชัดเจน
- เก็บเงินให้เป็นนิสัย
การเก็บเงินควรจะเริ่มเก็บตั้งแต่การค้าขายในครั้งแรก แม้จะไม่ได้มีจำนวนที่มากมาย แต่การเก็บออมทีละเล็กละน้อย จะสามารถสร้างนิสัยการออมของเราได้ อย่ารอให้กิจการลงตัวแล้วค่อยเก็บ เพราะเงินก้อนเล็ก ๆ ก็สามารถเติบโตเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ เพราะการค้าขายสิ่งที่เป็นมากกว่ากำไรคือการนำกำไรเหล่านั้นมาจัดสรรได้อย่างมีคุณค่า
- สำรองเงินไว้ใช้จ่ายหมุนเวียน
การแบ่งเงินทุนไม่ได้มีแค่การลงทุนไปแล้วจบ แต่ต้องมีเงินทุนสำรองเผื่อเอาไว้ เพื่อรองรับความเสี่ยงทุกกรณี เช่นสินค้าชำรุดเสียหาย หรือสินค้ามีปัญหา เราจะได้นำเงินสำรองที่แบ่งไว้มาใช้จ่ายและดึงธุรกิจให้กลับสู่สภาพเดิมได้
- คำนวณงบกำไรและขาดทุน
สามารถทำได้ด้วยการทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยจะต้องมีการลงบันทึกรายรับรายจ่ายในแต่ละวันและมาสรุปตอนสิ้นเดือนว่าเดือนนี้เราลงทุนไปเท่าไหร่ ขายของได้เท่าไหร่ ใช้จ่ายไปกับการขายเท่าไหร่ เช่นค่ากล่องพัสดุ ค่าอุปกรณ์การแพ็คของต่าง ๆ สุดท้าจะต้องนำยอดต่าง ๆ มาหักลบกันเพื่อที่จะได้ “กำไรที่แท้จริง” ออกมา
- บริหารสต็อคให้เป็น
เพราะสินค้าในสต็อคก็คือจำนวนเงินที่เราลงทุนไปแล้ว ดังนั้นการบริหารสต็อคก็เสมือนการบริหารเงินไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะหากบริหารสต็อคได้ไม่ดี เงินที่ลงทุนไปแทนที่จะได้กลับมาเป็นกำไร ก็อาจจะเป็นขาดทุนไปแทน แถมยังเหลือสินค้าคงเหลือในสต็อคอีกด้วย
ดังนั้นจะลงทุนแต่ละครั้งต้องจัดการให้ดี ๆ สินค้าชิ้นไหนที่ขาดก็ซื้อมาเพิ่ม สินค้าชิ้นไหนที่ขายไม่ค่อยได้ก็ต้องหาโปรโมชันหรือแคมเปญต่าง ๆ มาช่วยระบายสินค้าชนิดนั้นออกไป
เรียนรู้การบริหารการเงินได้ที่ เจาะลึกวิธีการบริหารเงิน (ฉบับคนไม่จบการเงิน)
Q & A
Q: เรียนกับ YOU MOOC ดียังไง?
A: YOU MOOC จะช่วยเติมทักษะที่คุณขาด เสริมจุดแข็งให้แกร่งยิ่งขึ้น ด้วยเนื้อหาที่ตั้งใจทำให้ง่าย และใช้ได้จริง เพื่อให้คุณนำไปประกอบอาชีพได้ เราจึงมั่นใจว่าไม่ว่าคุณจะมีอาชีพใด ๆ ถ้าอยากเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่ หลักสูตรนี้คือคำตอบของคุณ
สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับการค้าขายออนไลน์ YOU MOOC ก็มีบทความที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์แบบคนงบน้อยและสินค้ายอดนิยมสำหรับการขายออนไลน์มากฝากกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
เทคนิค การสร้างแบรนด์ ง่ายๆฉบับคนงบน้อย
สินค้ายอดนิยม สำหรับการขายแบบ E-Commerce ปี 2022
หรือใครที่สนใจเกี่ยวกับคอร์ส YOU MOOC เพิ่มเติมสามารถกดเข้าไปดูได้ที่ปุ่มคลิกข้างล่างนี้ 👇🏻 เรารวบรวมความรู้ทั้งด้านธุรกิจ การพัฒนาตนเองและการเติบโตในสายงาน KOL มาให้คุณแบบครบถ้วน ได้ความรู้แบบอัดแน่น ในราคาสุดประหยัด ได้คุณภาพเต็มเปี่ยม ด้วยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในแต่ละด้านของเมืองไทยทั้ง 18 ท่าน อย่ารอช้ากดสมัครเข้ามากันได้เลย
__________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่น ๆ
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
Shopee: YOU MOOC
Lazada: YOU MOOC