“Niche Market” หรือการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม มักจะเป็นการตลาดแบบที่ผู้ขายส่วนใหญ่มองข้าม เนื่องจากการตลาดประเภทนี้จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพียงเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น จึงทำให้ผู้ขายส่วนใหญ่เกรงว่าผลตอบแทนที่ได้จะน้อย แต่รู้หรือไม่ว่านั่นคือสิ่งที่หลายคนกำลังเข้าใจผิดอยู่
การตลาดประเภทนี้ แม้จะเป็นขายแบบเจาะจงเฉพาะลูกค้าบางกลุ่ม แต่การตลาดแบบนี้ จะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก เนื่องจากมีคู่แข่งทางการตลาดน้อย ที่สำคัญสินค้าส่วนใหญ่มักจะเป็นสินค้าที่ตัวผู้ขายสนใจ และรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้านั้นเป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างตรงจุด
ยิ่งทำการตลาดแบบเฉพาะกลุ่มจะทำให้เราสามารถสร้างฐานลูกค้าได้ง่าย ๆ ทั้งยังทำให้เกิดการแนะนำหรือการบอกต่อไปยังบุคคลใกล้ชิดของกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเดียวกันมากขึ้นอีกด้วย
สามารถเลือกขายสินค้าโดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 4 ประเภท ดังนี้
- Demography: อายุ เพศ รายได้ การศึกษา
- Geography: ตามที่ตั้งทำเล ภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย
- Psychographic: ความคิด ทัศนคติ ความสนใจ ไลฟ์สไตล์
- Price: ความสามารถในการจับจ่าย
ลักษณะการทำการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม จะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เน้นคุณค่าของสินค้ามากกว่าปริมาณ จึงทำให้สินค้าบางประเภทมีมูลค่าสูงดังนั้นกำไรจึงสูงตามไปด้วย
แต่ในขณะเดียวกันการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่
- การเติบโตหรือการขยายตลาดเป็นไปได้อย่างจำกัด เนื่องจากเป็นตลาดขนาดเล็ก ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ทำให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปได้ยาก
- ต้องเลือกตลาดที่มีคู่แข่งน้อย เพราะสินค้าบางประเภทมีผู้ขายเป็นจำนวนมาก เช่น เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ที่ปัจจุบันมีร้านค้าประเภทนี้เป็นจำนวนมาก
ในปัจจุบันการตลาดแบบนี้มักเห็นได้ชัดในสินค้าด้านอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการขายอัลบั้ม หรือของที่ระลึกจากศิลปิน ซึ่งมักจะมีการขายแบบเปิดพรีออเดอร์เนื่องจากตัวผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายภาษีที่มีมูลค่าสูง จึงทำให้สามารถซื้อสินค้าได้ในปริมาณมาก ในขณะเดียวกันร้านค้าที่เปิดพรีสินค้าประเภทนี้ยังมีน้อย จึงทำให้ลูกค้ามีทางเลือกไม่มากนัก ซึ่งหากร้านค้ามีการจัดโปรโมชันหรือของแถม ก็สามารถมัดใจลูกค้าให้ซื้อสินค้ากับทางร้านได้อีกในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภท Organic สินค้าสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Kanimal เป็นสินค้าประเภทดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ที่เน้นขายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ทั้งสินค้าทำความสะอาดบ้านสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ หรือจะเป็นแผ่นทำความสะอาดน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ ซึ่งสินค้าประเภทนี้ในประเทศไทยยังไม่มีให้เห็นมากนัก จึงทำให้แบรนด์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มคนรักสัตว์
บทความที่เกี่ยวข้อง :
7 วันแรกของการเปิดกิจการ ควรทำอะไรบ้าง?
Twitter ช่วยดันยอดขายให้โตไว หากรู้จักการใช้คีย์เวิร์ด
5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว
ทั้งนี้ YOU MOOC ขอแนะนำว่าการตลาดแบบ “Niche Market” จะประสบความสำเร็จได้ ต้องคำนึงถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขาย หากบริการดี สินค้าตรงใจ การตลาดแบบเฉพาะกลุ่มก็สร้างกำไรงาม ๆ ให้คุณได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
________________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]