ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย หนึ่งในอาหารเช้าสุดโปรดของคนไทยก็คือ “หมูปิ้ง” ร้อนๆที่มักทานคู่กับข้าวเหนียวนุ่มๆ และโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯจะมีความคุ้นชินกับมื้อเช้าที่ต้องเร็ว สะดวก ถูก และอร่อย ซึ่งอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับพวกเขาก็คือ หมูปิ้ง นั่นเอง และแน่นอนว่า ความนิยมของหมูปิ้งในบ้านเราทำให้เกิดร้าน “ขายหมูปิ้ง” จำนวนมาก ทั้งที่เป็นการหารายได้เสริมขายเฉพาะตอนเช้า หรือจะเป็นในระดับธุรกิจหลักแสน หรือที่สามารถเปิดร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ได้อีกด้วย แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ “ลงทุนไม่ยากและได้กำไรรวดเร็ว”
สำหรับคนที่สนใจจะประกอบธุรกิจอาหารประเภทหมูปิ้ง ห้ามพลาดกับบทความนี้เพราะ YOU MOOC จะมาบอกสิ่งที่ควรรู้ว่า “เปิดร้านหมูปิ้งขายยังไง ทำกำไรหลักพันทุกเช้า”
การหั่นหมูวัดผลกำไร
การหั่นหมูที่ดีต้องไม่ให้หนาหรือบางจนเกินไป โดยหมู 2 กิโลกรัม ทำหมูปิ้งได้ประมาณ 140 ไม้ และควรหั่นออกมาให้มีส่วนเนื้อแดงและมันหมูรวมกันอยู่ในชิ้นเดียวเพื่อความนุ่มและความอร่อยหลังจากปิ้งเสร็จ ส่วนเคล็ดลับในการปิ้งจะไม่ให้ไหม้ก็คือ การนำไม้เสียบหมูไปแช่น้ำก่อนประมาณ 30 นาที
ขายหมูปิ้ง รสชาติสำคัญ
แน่นอนว่าการทำธุรกิจอาหาร “ขายหมูปิ้ง” ต้องคำนึงถึงเรื่องรสชาติมาเป็นอันดับหนึ่ง หากลูกค้าทานแล้วไม่อร่อย หรือไม่ถูกปาก ก็อย่าได้คาดหวังว่ากลุ่มลูกค้าเหล่านั้นจะกลับมาซื้อกับที่ร้านอีก เพราะฉะนั้นสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับการปรุงรสหมูปิ้งให้ถูกปากลูกค้า และควรพัฒนารสชาติของหมูปิ้งเป็นรสชาติต่างๆที่หลากหลายเพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้า เช่น รสลาบ รสหมาม่า รสน้ำจิ้มแจ่ว รสหมูเกาหลี เป็นต้น
ขายตอนเช้าดีกว่าตอนเย็น
สำหรับตลาดและช่วงเวลาการขายหมูปิ้งถูกแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาหลักๆ ก็คือเช้าและเย็น แต่จากการสำรวจพบว่า มากกว่า 90% ของผู้ที่ทำรายได้มากจะขายช่วงเวลาเช้ามากกว่าเย็น เพราะได้กลุ่มลูกค้าอย่างเด็กนักเรียน ผู้ที่จ่ายตลาด คนทำบุญ ไปจนถึงวัยทำงานที่กำลังรีบออกเดินทางไปยังที่ทำงาน และยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น หมูปิ้งเป็นอาหารที่สะดวก และไม่เบาหรือนักท้องจนเกินไปสำหรับมื้อเช้า เป็นต้น
ตั้งเป้าหมาย 300 ไม้ต่อวัน
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจนี้ แนะนำว่าควรตั้งเป้าหมายให้ขายได้วันละ 300 ไม้ขึ้นไป เพราะเมื่อหักลบกับต้นทุนต่างๆแล้วก็จะได้กำไรหลักพันต่อวันได้ และเมื่อขายไปเรื่อยๆก็ต้องตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นทุกวัน พร้อมกับการเพิ่มปริมาณวัตถุดิบนั่นเอง และบางเจ้าก็สามารถขายได้ 500-1,000 ไม้เลยทีเดียว
ข้อแนะนำสำหรับการตั้งราคา: ขายเป็นชุดจะดึงดูดลูกค้าให้ซื้อมากขึ้น เช่น 3 ไม้ 20 บาท (ไม้ละ 7 บาทกว่าๆ) หรือ 4 ไม้ 20 บาท ( ไม้ละ 5 บาท) รวมข้าวเหนียว เป็นต้น และห้ามตั้งราคาที่โดดไปจากร้านอื่นๆ เพราะลูกค้าอาจจะไม่กล้าเข้ามาซื้อได้
ไม่รู้สูตรก็ซื้อแฟรนไชส์ “ขายหมูปิ้ง”
หลายคนอยากจะเริ่มขายหมูปิ้งแต่ดันไม่รู้สูตรหรือวิธีทำหมูปิ้งให้ออกมาอร่อย หรือไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร เลยล้มเลิกความคิดที่จะเริ่มทำธุรกิจนี้ แต่สมัยนี้มีแฟรนไชส์หมูปิ้งอยู่หลายเจ้าที่ให้บริการส่งหมูปิ้งเสียบไม้ให้เป็นกล่องๆ เป็นจำนวน 50 ไม้, 70 ไม้ หรือ 100 ไม้ขึ้นไป
นอกจากนั้น บางเจ้าก็มีบริการจัดหาอุปกรณ์ หรือทำเลให้ครบถ้วน โดยคุณไม่ต้องเตรียมอะไรเลย นอกจากเงินลงทุนกับแฟรนไชส์นั้นๆ แต่จำนวนการสั่งหมูปิ้งไม้สำเร็จรูปแต่ละครั้งก็ต้องมีจำนวน 800 – 1,000 ไม้ ต่อครั้ง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการเปิดร้านหมูปิ้ง เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้านหมูปิ้งออกมาให้ประสบความสำเร็จ และขายดิบขายดี และต้องใช้ความอดทนในการสร้างฐานลูกค้า เนื่องจากช่วงแรกๆอาจจะยังไม่มีลูกค้ามากนัก และยังขายไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้
หากอยากเรียนรู้เรื่องการค้าขายสามารถติดตามบทเรียนของ YOU MOOC ที่สอนอย่างจัดเต็ม และสนุกในราคาที่เป็นกันเอง หรือสามารถเรียนรู้เรื่อง KOL ได้แล้ววันนี้ กับคอร์ส “The KOL ขายให้ปัง ดังและรวย” อัดแน่น 15 บทเรียน จาก 13 ผู้สอนชั้นนำของประเทศไทย ดูรายละเอียดได้ที่นี่
______________________________________________________________________________________________
สามารถติดตามช่องทางอื่นๆได้ที่
👉 Facebook: YOU MOOC
👉 LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @)
[https://lin.ee/thXVOy0]