การทำความเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมและทัศนคติของลูกค้าหรือผู้บริโภคแต่ละ Generation หรือแต่ละช่วงวัย ในมิติต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจ เนื่องจากแต่ละ Generation มีความต้องการและพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป หรือที่เรียกว่า “Generation Gap” ที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลานั้น ๆ 

การทำธุรกิจต้องมีการปรับตัวและวางแผนธุรกิจให้ดีและมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถทำการตลาดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ ซึ่งนับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับเจ้าของธุรกิจ เพราะว่าปัจจัยทางด้านความแตกต่างระหว่างช่วงวัย (Generation Gap) นั้นมีความซับซ้อนและชัดเจนมากยิ่งขึ้นในยุคนี้

ทั้งนี้ หากเราสามารถรู้จักกับพฤติกรรมและทัศนคติของลูกค้าให้ดีพอ ก็จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น และส่งผลให้เกิดยอดขายที่มากขึ้นนั่นเอง ทีนี้ YOU MOOC จะมาชวนให้ผู้อ่านมาเข้าใจพฤติกรรมของ 5 Generation เพื่อนำไปทำการตลาดสำหรับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Baby Boomer (1946 – 1964)

Baby Boomer คือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 57-75 ปี เป็นยุคของคนที่เกิดช่วงบ้านเมืองสงบหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดต้องการแรงงานคน ทำให้คนในยุคนี้มีแนวคิดว่าต้องมีลูกหลานจำนวนมาก เพื่อเพิ่มจำนวนแรงงานมาช่วยกันทำให้ประเทศดีขึ้น

พฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่ม Baby Boomer มีไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่เน้นเรื่องสุขภาพ กังวลการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ และให้ความสำคัญกับการใช้เวลากับครอบครัวมากกว่า Gen อื่น ๆ ส่วนในด้านการทำงาน กลุ่ม Baby Boomer มีการเลื่อนการเกษียณอายุออกไปเพราะยังต้องการทำงานหาเงิน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ไม่แน่นอนของยุคนี้

สินค้าที่สามารถเจาะตลาดคนกลุ่ม Baby Boomer ได้

• สินค้าเพื่อสุขภาพ
• ประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิต
• บริการท่องเที่ยว เน้นสถานที่ที่สงบ มีความปลอดภัย และไม่เร่งรีบ
• อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เน้นการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน และมีจอแสดงผลขนาดใหญ่
• อาหารเพื่อสุขภาพที่ป้องกันโรคต่าง ๆ ตามวัย

คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการบริการที่มีความใส่ใจ มีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการจับจ่าย และยังสนใจเรื่องของส่วนลด สิทธิสมาชิก และแคมเปญอื่น ๆ ที่สามารถรองรับความเป็น Royalty ของพวกเขาได้

Gen X (1965 – 1980)

Gen X คือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 41-56 ปี เป็นกลุ่มที่เกิดมาในยุคที่ความร่ำรวยกำลังขยายไปทั่วโลก ยุคแห่งเศรษฐกิจเฟื่องฟูและมีการแข่งขันสูง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นในยุคนี่ ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอเกม คอมพิวเตอร์ ฯลฯ และชอบการใช้ชีวิตนอกบ้าน และมีงานอดิเรกทำมากกว่ากลุ่มคน Baby Boomer

กลุ่ม Gen X นับว่าเป็นกลุ่มคนที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของหน้าที่การงาน และมีการใช้จ่ายเงินมากกว่าคนกลุ่มอื่น ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะถูกใช้กับครอบครัวเพราะเป็นกำลังหลักที่ต้องดูแลกลุ่ม Baby Boomer และดูแลลูกหลานกลุ่ม Gen Z คนกลุ่มนี้จึงมีความรอบคอบในการใช้จ่ายเงินมาก

สินค้าที่สามารถเจาะตลาดกลุ่ม Gen X ได้

• อสังหาริมทรัพย์ ที่มีความสวยงามเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตัวเอง
• เทคโนโลยีต่าง ๆ
• ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อต้านโรคภัย บำรุงร่างกาย และสามารถดูแลรูปร่างและผิวพรรณ
• การท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก เน้นบริการที่ดี สวยงาม และคุ้มค่าต่อการจ่าย

กลุ่ม Gen X จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการในแต่ละครั้ง จะต้องทำการศึกษาข้อมูลและอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงเป็นหลักผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Youtube หรือ Line ดังนั้น การทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียกับคนกลุ่มนี้เป็นช่องทางที่ดี อีกทั้ง Gen X ยังเป็นกลุ่มคนที่ยึดแบรนด์โปรดหรือร้านโปรดเป็นตัวเลือกการตัดสินใจอีกด้วย เพราะฉะนั้น การสร้าง Brand Royalty ระบบสะสมแต้ม หรือระบบ Membership เป็นสิ่งที่ดึงดูดสำหรับคนกลุ่มนี้

Gen Y (1981 – 1996)

Gen Y คือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี หรือเรียกได้ว่า Millennials โดยคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาก้าวกระโดด และสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว จึงนิยมเสพสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น LINE, Facebook, Twitter และ Youtube เป็นต้น

กลุ่ม Gen Y เติบโตมาพร้อมกับความสะดวกสบาย ไม่ชอบการโดนบังคับหรืออยู่ในกรอบ และมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง และมีความมั่นใจในการตัดสินใจ และใช้สื่อเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์และคล่องแคล่วกว่าคนกลุ่มอื่น อีกทั้งยังมีความรู้ทางการเงินเป็นอย่างมาก รู้จักการบริหารเงินให้งอกเงย และต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง

สินค้าที่สามารถเจาะตลาดกลุ่ม Gen Y ได้

• ผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดขาย เน้นดีไซน์และลูกเล่นต่าง ๆ
• ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สวย ๆ มีความ Minimal มีจุดถ่ายรูป
• เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคุมโทน
• เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ด้านความสวยงาม
• เสื้อผ้า แฟชั่น
• การท่องเที่ยว โรงแรม และที่พัก

การเลือกซื้อสินค้าและบริการของคนกลุ่มนี้เน้นรูปแบบที่ทันสมัย มีรสนิยม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคนกลุ่มนี้ชอบการซื้อของออนไลน์จากช่องทางต่าง ๆ เช่น Shopee Lazada และ Instagram เป็นต้น และสนใจสินค้าที่มีความคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการมักมองหาข้อมูลและทำการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ อย่างจริงจัง จนตัวเองมั่นใจ และจึงตัดสินใจซื้อ การทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จกับคนกลุ่มนี้ต้องอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์ การรีวิวของผู้ใช้จริง และฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายและรวดเร็ว

Gen Z (1997 – 2012)

Gen Z คือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 9-24 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีรุ่งเรือง ทันสมัย และเข้าถึงง่าย และเติบโตมาในสังคมโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง

กลุ่ม Gen Z มีพฤติกรรมและทัศนคติที่ชอบสร้างความบันเทิงให้กับตัวเอง เช่น ดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง เป็นต้น มีความคิดเป็นของตัวเองสูง และไม่ยึดติดกับวัฒนธรรมเดิม ๆ มองโลกกว้างขึ้น ไม่มีเรื่องเพศมาเป็นส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องต่าง ๆ พร้อมที่จะแสดงความเห็น และกล้าลงมือทำ โดยเฉพาะเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสังคม

สินค้าที่สามารถเจาะตลาดกลุ่ม Gen Z ได้

• เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคุมโทน
• ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สวย ๆ มีความ Minimal มีจุดถ่ายรูป
• เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ด้านความสวยงาม
• เสื้อผ้า แฟชั่น

คนกลุ่มนี้นิยมเสพสื่อออนไลน์มากกว่าคนกลุ่มอื่น และมักค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการที่ต้องการด้วยตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ดังนั้นผู้ประกอบการควรมีการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หรือบนเว็บไซต์ที่เข้าถึงง่ายและมีข้อมูลที่ละเอียด ชัดเจน และไม่ควรขายแบบตรง ๆ อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังเชื่อถือกับเหล่า Influencer หรือ KOL เป็นอย่างมาก ดังนั้นการทำการตลาดผ่าน Influencer หรือ KOL จะมีผลต่อการตัดสินใจของคนกลุ่ม Gen Z ได้เป็นอย่างดี

Gen Alpha (2010 – 2024)

Gen Alpha คือกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยกว่า 11 ปี เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาไปจนถึงระบบ AI แล้ว กลุ่มนี้ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากระบบเทคโนโลยีที่กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน คนกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มจะมีนิสัยขี้เบื่อ มีความอดทนต่ำ และอารมณ์ร้อน ซึ่งเป็นผลมาจากวิวัฒนาการเทคโนโลยีที่สะดวกสบายมาตั้งแต่พวกเขาเกิด แต่อีกมุมหนึ่งก็สามารถทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ฉลาดที่สุดเพราะเติบโตมากับเทคโนโลยีอันล้ำเลิศ

กลุ่ม Gen Alpha มีแนวโน้มจะใส่ใจกับเรื่องของอาหารและสุขภาพ เพราะถูกปลูกฝังเรื่อง Well-being มาตั้งแต่เด็ก และเป็นโอกาสของธุรกิจต่าง ๆ ที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายของเด็ก Gen alpha โดยเฉพาะด้าน Youtube และ Streaming ต่าง ๆ Micro Influencer จึงจะมีบทบาทต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ

สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่า ทุก Generation มีความแตกต่างกันทั้งทางด้านพฤติกรรมและทัศนคติ ซึ่งเป็นผลจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่แตกต่างกันในยุคนั้น ๆ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในการศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้เพื่อดำเนินธุรกิจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง
“Niche Market” เจาะตลาดลูกค้ากลุ่มที่ใช่ เลือกขายในสิ่งที่ชอบ

________________________________________________________________________________________________

ช่องทางติดตามอื่นๆ  

✨ Website: https://youmooc.co/

✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]

✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]

✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]