สำหรับการ “เปิดกิจการ” ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบไหนก็ตาม เจ้าของธุรกิจควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมและศึกษาการตลาดของธุรกิจให้ดีเพื่อที่จะทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินก้าวหน้าไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วงแรก ๆ ของการเปิดร้านหรือกิจการต่าง ๆ อาจจะต้องเจอกับปัญหาอย่างเช่น ลูกค้าน้อย สินค้าขายไม่ดี หรือลูกค้าซื้อแล้ว แต่ก็ไม่กลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่ร้ายแรงหรือยากเกินกว่าจะแก้
และรู้หรือไม่ว่า 7 วันแรกของการเปิดกิจการถือว่าเป็นหนึ่งตัวชี้วัดได้เลยว่า ธุรกิจที่กำลังทำอยู่จะเดินหน้าอย่างสวยงาม หรือจะถอยหลังลงคลองแบบไม่ทันตั้งตัว แล้ว 7 วันแรกที่ว่ามานี้ ควรทำอะไรบ้าง มาลองอ่าน 5 ข้อที่เราได้เตรียมมาให้อ่านกันเลยค่ะ
1. ทำการตลาดบนโลกออนไลน์
โลกปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นโลกออนไลน์หรือโลกดิจิทัลกันไปซะหมด เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการกิจการต่าง ๆ ควรใช้โลกออนไลน์มาเป็นสื่อหลักในการทำโปรโมตสินค้าหรือบริการของตัวเอง และการตลาดออนไลน์ตอนนี้ก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
- การใช้โลกโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter, หรือ Youtube เป็นต้น
- การยิง EDM หรือการส่ง Email แบบครั้งเดียวจบ
- การยิงแอดผ่าน Facebook หรือโฆษณาผ่านวิดีโอบน Youtube
- การบรอดแคสต์ข้อความผ่าน Line Official
- การสร้าง Website ธุรกิจในรูปแบบมืออาชีพ
นอกจากตัวอย่างข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งการตลาดบนโลกออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันก็คือ การจ้าง Influencer หรือ KOL เพื่อทำการรีวิวหรือแนะนำกิจการผ่านการถ่ายรูป การถ่ายวิดีโอ หรือการไลฟ์สด ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีฐานแฟนคลับหรือยอด Follower ที่สูงตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งมีโอกาสสูงที่บุคคลทั่วไปสามารถรับรู้ถึงกิจการของคุณได้ จนสามารถเกิดการซื้อขายได้ และนี่ทำทำให้การตลาดแบบนี้เป็นที่นิยมและเติบโตขึ้นทุก ๆ วัน
2. สร้างโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่
‘โปรโมชั่นเปิดร้านใหม่’ มักเป็นอะไรที่คุ้นหูคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นหนึ่งการตลาดที่สามารถเรียกลูกค้าเข้าร้านได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นคำนี้ ยิ่งมีโปรดีแค่ไหน ก็จะยิ่งกระตุ้นยอดขายได้มากเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะจัดโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ ก็อย่าลืมคำนวณต้นทุน กำไร ขาดทุน ไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะดึงลูกค้า แต่ยอดขายจากโปรโมชั่นต่าง ๆ กลับติดลบ แบบนี้ก็ไม่ดีแน่ ส่วนโปรโมชั่นที่ดึงดูดลูกค้ามีหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- โปรลดราคา (Price off) เช่น ลด 10% / ลด 50 บาท
- โปรรีวิวสินค้า ลดทันที 50 บาท เช่น หากคุณทำร้านกาแฟ และแจ้งลูกค้าว่า หากทำการรีวิวร้าน/กาแฟบน Facebook หรือ Instagram จะได้ลด 50 บาท จากทุกเมนูทันที
- โปรซื้อ 1 แถม 1
- โปรสะสมแต้ม แลกของรางวัล
และยังมีโปรอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำให้มัดใจลูกค้าของคุณได้ ซึ่ง 7 วันแรกนี้ก็จัดโปรเด็ด ๆ สักตัว ที่เหมาะกับรูปแบบธุรกิจของคุณ และอย่าลืมสร้างความประทับใจให้กับเหล่าลูกค้ากันด้วย
3. มีบริการขนส่งให้ลูกค้าได้เลือกใช้
ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของกิจการควรใส่ใจและบริหารธุรกิจให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตในช่วงโควิด-19 แบบนี้ โดยควรมีบริการขนส่งให้ลูกค้าได้ใช้บริการกันทั้งในรูปแบบธุรกิจเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ หรือธุรกิจอาหาร ซึ่งก่อนที่จะเปิดร้านอย่างเป็นทางการ เจ้าของธุรกิจควรศึกษาและเข้าใจระบบต่าง ๆ ให้แน่ชัดและเข้าที่ก่อน
และข้อดีของการใช้บริการขนส่งยังเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางกลุ่มลูกค้าที่เน้นการจับจ่ายใช้สอยบนโลกดิจิทัลมากกว่าการเดินห้างหรือมาที่หน้าร้าน
อีกทั้งเจ้าของกิจการควรใช้เวลาการในแพ็คของและขนส่งสินค้าให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้ลูกค้ามองเห็นว่าร้านของเรามีบริการที่รวดเร็วและสะดวกสบาย ส่วนระยะเวลาการจัดส่งสินค้าก็จะขึ้นอยู่กับบริษัทขนสินค้าว่าใช้เวลากี่วัน ดังนั้นเจ้าของกิจการก็ควรเลือกใช้บริการเจ้าที่จัดส่งอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว โดยสามารถดูจากรีวิวต่าง ๆ หรือสังเกตจากประสบการณ์จริงเลยก็ได้
4. ปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจจากความคิดเห็นลูกค้า
หลังจากที่ได้บริการหรือปิดการขายกับลูกค้าแล้ว เจ้าของกิจการก็อย่าลืมสอบถามลูกค้าว่าเป็นยังไงบ้างกับสินค้าของเรา หรือขอคำแนะนำจากพวกเขาเพื่อที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ดีขึ้น และควรที่จะรับฟังความคิดเห็นที่เป็น “บวก” และ “ลบ” เพราะทั้งหมดนั้นล้วนมาจากประสบการณ์จริงของลูกค้า
การสอบถามไม่จำเป็นต้องเป็นทางการจนเกินไป เพราะจะทำให้ทางฝั่งของลูกค้าเกิดความเกร็งหรือเกรงใจได้ ผู้ประกอบการควรพูดคุยด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง และยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อให้เกิดบทสนทนาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังเกิดมิตรภาพที่ดีระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้าได้อีกด้วย
5. ชนะใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด
จะชนะใจลูกค้าได้ยังไง? คำตอบคือ “คุณภาพสินค้าและความใส่ใจ”
7 วันแรกของการ เปิดกิจการ ควรมุ่งเน้นถึงเรื่องคุณภาพสินค้าและความใส่ใจต่อลูกค้ามากที่สุด เพราะว่านี่เป็นก้าวสำคัญของการทำธุรกิจที่จะสามารถชนะใจลูกค้าได้หรือไม่ และหากสามารถชนะใจลูกค้าผ่านคุณภาพสินค้าและการดูแลเอาใจใส่ตลอดการขาย ก็จะสามารถดึงลูกค้าหน้าใหม่มาเป็นลูกค้าประจำได้อย่างสบาย ๆ
คุณภาพสินค้าที่ดีในสายตาผู้บริโภคหรือลูกค้าก็คือ สินค้าที่ใช้งานได้ดี คงทน สวยงาม ปลอดภัย และมีมาตรฐาน หรือสำหรับมุมของร้านอาหารก็คือ ความอร่อย ความสะอาด และบรรยากาศภายในร้าน ที่มาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม
ส่วนความใส่ใจก็คือ การบริการที่ดีและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ ซึ่งสามารถเกิดจากทั้งวาจา กิริยา และพฤติกรรมต่าง ๆ ระหว่างการขายที่ลูกค้าจะเป็นคนวัดความพึงพอใจในการบริการนั่นเอง เพราะฉะนั้น เจ้าของกิจการหรือลูกน้องควรคำนึงถึงเรื่องบริการไว้ให้มาก และลองคิดดูว่า เราชอบให้คนบริการเรายังไง เราในฐานะคนขายก็ควรบริการกลุ่มลูกค้าแบบนั้นเช่นกัน อีกทั้งควรรับมือคำวิจารณ์อย่างมีสติ และตอบโต้ด้วยความสุภาพและน้อมรับคำติชม
เป็นยังไงบ้างคะกับข้อแนะนำของเราสำหรับการเปิดกิจการ 7 วันแรก ควรทำยังไงบ้าง? YOU MOOC หวังว่าข้อมูลที่เราได้นำเสนอครั้งนี้จะช่วยให้เถ้าแก่หลาย ๆ คนได้ความรู้จากตรงนี้ และนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณได้นะคะ