การ สร้างความมั่นคงทางการเงิน ของวัยเริ่มทำงาน อาจเป็นเรื่องที่ยากหรือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่นึกถึง แต่ถ้าหากเรามีความมั่นคงทางการเงินตั้งแต่แรกหรือตั้งแต่เริ่มทำงานจะดีกว่าไหม เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเงินพอใช้หรือเปล่า และหากเกิดเหตุสุดวิสัยต้องเข้าโรงพยาบาล จะมีเงินเพียงพอต่อการรักษาหรือไม่ แอดมินเลยขอแชร์เทคนิค สร้างความมั่นคงทางการเงินให้เอง หรือเรียนรู้ได้จากคอร์ส เริ่มต้นให้ถูกวิธี เพื่อการเงินที่มั่นคง
บันได 5 ขั้น สร้างความมั่นคงทางการเงิน ของวัยเริ่มทำงาน
1.สนุกกับการใช้ชีวิต และมีวินัยทางการเงิน
หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยกันแล้ว และเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน หลายคนมักจะเน้นการใช้จ่ายมากกว่าการเก็บออม เพราะมีรายได้เป็นของตัวเองแล้วไม่ต้องขอจากผู้ปกครอง จึงใช้เงินเหล่านั้นที่หามาได้โดยง่าย เพื่อเติมเต็มความสนุกทั้งการท่องเที่ยว การสังสรรค์ รวมถึงการซื้อของที่ในช่วงวัยเรียนไม่สามารถทำได้ จึงทำให้ขาดความรอบคอบในการใช้จ่าย แต่ต้องคิดถึงว่าการใช้จ่ายโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีในวันนี้อาจจะสร้างชีวิตที่ยากลำบากในอนาคตได้ จึงควรมีวินัยทางการเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน โดยการจัดสรรรายได้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ อย่างเป็นสัดส่วน
เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ควรจัดสรรเงิน 50% ของเงินเดือน หรือประมาณ 10,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ได้แก่ ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ค่าอาหารประจำวัน ค่าสาธารณูปโภคและการสื่อสาร อีก 30% หรือประมาณ 6,000 บาท เพื่อการออม และทำให้เกิดดอกผล และสุดท้าย 20% หรือประมาณ 4,000 บาท เพื่อตอบสนองสิ่งที่ต้องการหรือประสบการณ์ชีวิต เช่น การสังสรรค์ หรือซื้อสิ่งของที่นอกเหนือความจำเป็น เพื่อให้ชีวิตมีความสนุกและสะดวกสบายบ้าง ซึ่งเงินในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายออกไปทุกเดือน
สัดส่วนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องตายตัว แต่หากสามารถสร้างวินัยทางการเงินโดยการจัดสรรรายได้ในลักษณะนี้ตั้งแต่เริ่มทำงานจนเป็นนิสัย จะทำให้ไม่เสี่ยงต่อสภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินยังมีเงินออมส่วนหนึ่งให้อุ่นใจด้วย
2.สร้างความมั่นคงในหน้าที่การงาน (ใช้ชีวิตด้วยต้นทุนที่เรียบง่าย)
สำหรับประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมคนสูงวัย ทำให้เกิดการขาดแคลนวัยทำงานในอีกไม่ช้า จึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ ในการเข้ามาเติมเต็มและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ให้เจริญก้าวหน้า โดยใช้ความรู้ ทักษะ ความชำนาญ และประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติส่วนบุคคลที่ก่อให้เกิดโอกาสทั้งในหน้าที่การงานและการเงิน อันจะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินด้วย
การต่อยอดความรู้นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายแพง เพราะการเข้าถึงข้อมูลความรู้ในปัจจุบัน มีต้นทุนที่ลดลงกว่าในอดีตมาก เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ทั้งผู้เชี่ยวชาญหรือสถาบันความรู้ที่มีชื่อเสียงหลายที่ ได้เปิดคอร์สออนไลน์สำหรับวัยทำงาน ทำให้สามารถเรียนรู้ได้โดยตัดต้นทุนค่าเดินทางและค่าที่พักออกไป และยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นหรือประสบการณ์ได้อย่างสะดวกในระดับหนึ่ง ช่วยลดอุปสรรคและเปิดขอบเขตโลกการเรียนรู้ให้กว้างและลึกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และการฝึกทักษะให้กับตนเองอย่างต่อเนื่อง จึงเหมือนการลงทุนในสินทรัพย์อย่างหนึ่งที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในอนาคต
3.เป็นนักวางแผนทางการเงิน
หลายคนมักเข้าใจผิด ว่าการสร้างความมั่นคงทางการเงิน คือ การประหยัดเก็บออม แต่แท้จริงแล้ว การเป็นนักวางแผนทางการเงินต่างหากที่เป็นหัวใจหลัก ทำให้เกิดทั้งความมั่นคงและความมั่งคั่ง การกำหนดเป้าหมายจะนำไปสู่การจัดลำดับความสำคัญในสิ่งที่ต้องลงมือทำ มีกรอบระยะเวลา รวมถึงการวางแผนรับมือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง
การวางแผนการเงิน จะช่วยให้เห็นสิ่งที่ต้องทำชัดเจนยิ่งขึ้น มีการไตร่ตรองและมีความรอบคอบ ผู้ที่วางเป้าหมายทางการเงินเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงานจะเริ่มจัดลำดับความสำคัญ ของสิ่งที่ต้องลงมือทำ เช่น การวางแผนใช้หนี้ที่กู้ยืมมาเพื่อการศึกษา ภายในปีที่กำหนด หรือเริ่มเก็บออมและลงทุนให้เกิดดอกผล การวางแผนและสะสมความสำเร็จทีละเล็กน้อยไปเรื่อย ๆ จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ในภาพใหญ่ และไม่หลงทาง จนเวลาผ่านไปโดยไม่บรรลุเป้าหมายอะไรเลย
4.วางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อเริ่มทำงาน สำหรับมนุษย์เงินเดือนเลยก็คือ กรณีนายจ้างเป็นองค์กรที่มีสวัสดิการระบบบำนาญ ถือเป็นผลประโยชน์ที่ต้องศึกษาตั้งแต่เริ่มงาน เพื่อที่จะได้จัดสรรเงินให้เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่จะได้ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากจะได้เงินสะสมแล้ว นายจ้างก็จะสมทบให้อีกจำนวนหนึ่งตามอัตราที่กำหนดในข้อบังคับของกองทุน
หลายองค์กรสร้างแรงจูงใจให้พนักงานมีการออมเพื่อวัยเกษียณ โดยสมทบเท่าที่พนักงานเก็บออมโดยกำหนดเพดานไว้ เช่น พนักงานออม 3% ของเงินเดือน นายจ้างสมทบให้อีก 3% เท่ากัน แต่ถ้าพนักงานสะสมมากขึ้น เช่น 5% หรือ 10% นายจ้างจะสมทบให้ในสัดส่วนเดียวกัน ซึ่งวิธีการนี้เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองตั้งแต่วันที่เงินเดือนออก เพราะนายจ้างจะหักส่วนหนึ่งไว้และสมทบให้ตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง
5.เน้นการลงทุน (ไม่ใช่การกู้ยืม)
สิ่งที่วัยเริ่มทำงานต้องคิดทบทวนก่อนก่อหนี้ คือ การสร้างหนี้สินเกินกำลังที่จะชำระหรือไม่ และเป็นการสร้างหนี้ดีที่จะเกิดมูลค่าในอนาคตหรือเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ใด ๆ และหากเป็นไปได้ควรหาความรู้ในสินทรัพย์การลงทุน และเริ่มต้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนก่อน แล้วจึงนำผลกำไรบางส่วนไปซื้อของต่าง ๆ ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็นการยกระดับเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว เพราะยิ่งเริ่มต้นลงทุนเร็วเท่าไหร่ ระยะเวลาที่จะสร้างผลตอบแทนจะมีมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ทักษะการเรียนรู้ทางการเงินต้องเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มทำงาน ไม่ควรเริ่มใกล้เกษียณ เพราะอาจทำให้ไม่ทันการแล้วก็ได้ ซึ่ง 5 ข้อที่แอดมินนำมาฝาก ทุกคนลองนำไปปรับใช้กับตัวเองให้เหมาะสมดูนะคะ
—————————————————————————————————————–
ช่องทางติดตามอื่น ๆ
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]