“DropShip” หรือการขายแบบตัวแทน ที่มีรูปแบบการขายแตกต่างไปจากการขายแบบตัวแทนจำหน่ายโดยทั่วไป โดยผู้ขายไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าเอง แต่สามารถทำรายได้จากการโพสต์ขายสินค้าชนิดนั้น จากนั้นนำยอดการสั่งซื้อของลูกค้าส่งต่อให้กับเจ้าของแบรนด์ หรือกดสั่งจากเว็บไซต์อีกต่อหนึ่ง
ธุรกิจลักษณะนี้ผู้ขายไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินในการลงทุน เพียงนำข้อมูลสินค้าที่ต้องการขาย นำไปโพสต์ขายตามช่องทางต่าง ๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์ม E-Commerce สำหรับการช้อปโดยเฉพาะก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG LINE SHOPEE LAZADA หรือหากใครมีเว็บไซต์ส่วนตัว ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนนี้ผู้ขายจะสามารถบวกกำไรเพิ่มเติมจากราคาเดิมของสินค้าได้อย่างสบาย ๆ
ทั้งนี้การขายแบบ Dropship จะโพสต์ขายแค่ตัวของสินค้าเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ แต่ผู้ขายต้องมีกลยุทธ์การตลาดสำหรับการขาย ว่าจะโพสต์อย่างไรให้สินค้าของเราดูโดดเด่น แตกต่าง และน่าซื้อมากกว่าผู้ขายรายอื่น เพราะแน่นอนว่าการขายแบบ Dropship นั้น ตัวสินค้า 1 ชนิดก็อาจจะมีผู้ขายที่สนใจนำมาลงขายเช่นเดียวกัน
ข้อดี
1. ลงทุนไม่มาก และไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุน
2. ไม่ต้องกังวลเรื่องของการสต็อกสินค้า
3. สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ตามยุคสมัยและเทรนด์ตลาด
4. สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้แบบสบาย ๆ
5. ไม่ต้องแพ็คของส่งเอง เพราะเจ้าของหรือเว็บไซต์จะเป็นคนส่งให้ลูกค้าแบบโดยตรง
ข้อเสีย
1. หากสินค้าคุณภาพไม่ดี จะทำให้ผู้ขายขาดความน่าเชื่อถือ
2. เมื่อเป็นการลงทุนที่ง่าย ทำให้ผู้แข่งขันทางการตลาดมีเยอะ
3. หากไม่มีความรู้ในสินค้ามากพอ ก็อาจจะทำให้ปิดการขายได้ยาก
การขายของออนไลน์ประเภทนี้ แม้จะไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากและสินค้าไม่ต้องค้างในสต็อก แต่การที่จะทำให้สินค้าที่เราตัดสินใจรับมาขายนั้นขายได้ ก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เนื่องจากคู่แข่งทางการตลาดเยอะ หากเราไม่มีกลยุทธ์การขายที่ดี ก็อาจจะทำให้ถูกแย่งลูกค้าไป ดังนั้นเราต้องมีทักษะพื้นฐานด้านการขายไม่มากก็น้อย
บทเรียนที่เกี่ยวข้อง : เป็นเถ้าแก่ได้ ต้องขายให้เป็น
หากใครที่สนใจที่จะขายสินค้าประเภทนี้ ทาง YOU MOOC ก็มีวิธีและขั้นตอนการลงขายมาฝากกันค่ะ
#เลือกขายในสิ่งที่เราสนใจและถนัด
การเลือกขายสินค้าชนิดหนึ่งนั้น หากไม่มีความสนใจและความรู้มากพอ ก็อาจจะทำให้การขายเป็นเรื่องที่ยาก ทั้งในการตอบคำถามของลูกค้า และการดึงจุดเด่นที่น่าสนใจออกมา ดังนั้นการเลือกขายจากสิ่งที่เรารู้ จะทำให้ผู้ขายนำเสนอสินค้าได้ดีและปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น
#หาผู้ให้บริการDropship
การหาผู้ใหบริการธุรกิจประเภทนี้สามารถค้นหาง่าย ๆ ด้วยการค้นหาจากอินเตอร์เน็ตและตามด้วยชื่อหรือประเภทของสินค้า ก็จะปรากฏเว็บไซต์มากมายจากทั้วโลกให้ได้เลือกเช่น AliExpress, eBay, Amazon และ Alibaba
#ลงขายสินค้าตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ผู้ขายสามารถโพสต์รูปสินค้าตามที่เว็บไซต์หรือทางเจ้าของแบรนด์ส่งมาให้ได้เลย แต่ก่อนจะลงขาย แนะนำว่าควรจะตกแต่ง Artwork และนำเสนอสินค้าผ่านแคปชั่นหรือข้อความต่าง ๆ ให้น่าดึงดูด รวมไปถึงสร้างแพลตฟอร์มของเราให้สวยงามและน่าสนใจ วิธีนี้จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อจากร้านของเราไวยิ่งขึ้น
#สั่งสินค้าทันทีเมื่อปิดการขาย
หลังจากที่ปิดการขายได้แล้ว เราสามารถสรุปยอดการสั่งซื้อพร้อมกับโอนเงินให้กับทางเจ้าของแบรนด์หรือกดสั่งทางเว็บไซต์ได้เลย ทางแบรนด์ก็จะแพ็คของพร้อมทั้งจัดส่งให้กับลูกค้าได้โดยตรง โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่านเราก่อน ซึ่งเราควรดำเนินการการสั่งซื้อให้เร็วที่สุดเพื่อลูกค้าจะได้รับสินค้าในเวลาที่ทันใจและสร้างความประทับใจต่อลูกค้าได้ง่ายขึ้น
ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ หากใครที่สนใจจะขายของออนไลน์ หรือต้องการหารายได้เสริม การทำธุรกิจแบบ Dropship ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากเลยนะคะ ไม่ต้องใช้เงินลงทุน แถมไม่ต้องสต็อกสินค้าอีกด้วย ใครที่สนใจก็ลองศึกษาธุรกิจประเภทนี้เพิ่มเติมได้นะคะ
________________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]