ในยุคสมัยที่ Influencer มีอิทธิพลต่อโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ภาคธุรกิจหลากหลายแบรนด์เลือกใช้ผู้มีอิทธิผลบนโลกโซเชียลเหล่านี้แทนดาราหรือศิลปิน ที่มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่สูงกว่า เนื่องจากการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ไม่เพียงแต่จะใช้งบประมาณที่น้อย แต่ในทางกลับกัน การรีวิวสินค้า การโปรโมท ผ่านตัวของอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้ผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์นั้น ๆ เกิดการรับรู้ของแบรนด์ และนำไปสู่การซื้อตามได้ดีกว่าการโฆษณา

แน่นอนว่าการที่มีตัวบุคคลที่ขับเคลื่อนสังคมบนโลกออนไลน์เช่นนี้ มักจะก่อให้เกิดข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับภาคธุรกิจและผู้พัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า “Data Science” คือตัวแปรสำคัญในโลกของอินฟลูเอนเซอร์เลยก็ว่าได้

ในบทบาทของ Influencer

ข้อมูลของผู้ชม ตัวอินฟลูเอนเซอร์ และความเป็นที่นิยมของแพลตฟอร์มนั้น ๆ สามารถบอกได้ถึงข้อมูลเบื้องต้นอย่าง อายุ เพศ ที่อยู่อาศัย จำนวนผู้ติดตาม ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดรู้ได้ว่าสินค้าของพวกเขานั้นเหมาะกับแพลตฟอร์มไหน อินฟลูเอนเซอร์คนใด เพื่อการทำการตลาดที่เหมาะสมและตรงตามความต้องการของพวกเขามากที่สุด

ไม่เพียงเท่านั้น อินฟลูเอนเซอร์ต่างก็ต้องอาศัยข้อมูลจากแพลตฟอร์มของพวกเขาด้วยเช่นกัน เพื่อวิเคราะห์ดูว่าคนที่ติดตามอยู่ในช่วงวัยไหน เพศอะไร ช่วงเวลาไหนที่ผู้คนเข้าชมมากที่สุด เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับผู้ชมเหล่านั้น รวมไปถึงต้องคอยอัพเดตโลกโซเชียลว่า ช่วงนั้นสิ่งไหนที่เป็นกระแส อะไรที่ผู้คนให้ความสนใจ เพื่อให้ตามทันเทรนด์และเป็นที่นิยมอยู่เสมอ

การที่จะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัย ข้อมูลเหล่านี้เข้ามาเป็นตัวช่วยในการพัฒนาคอนเทนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งทางผู้พัฒนาหรือผู้เชี่ยวชาญของแพลตฟอร์มต่าง ๆ มักจะเป็นผู้วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ สร้างมาเป็นกราฟ หรือข้อมูลเบื้องต้นในระบบหลังบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อให้อินฟลูเอนเซอร์เข้าใจได้ง่าย และนำไปปรับใช้กับคอนเทนต์ของตนได้

การเลือกใช้ Influencer

การติดแฮชแท็ก หรือการจัดหวดหมู่โดยอินฟลูเอนเซอร์จะทำให้นักการตลาดหรือภาคธุรกิจที่ต้องการจ้างงานผู้นำทางความคิดบนโลกโซเชียลเหล่านี้ หาตัวพวกเขาได้ง่าย และตรงตามความต้องการของแบรนด์ เช่น หากแบรนด์กำลังมองหาบิวตี้บล็อกเกอร์ ก็เพียงแค่เสิร์ชตามแฮชแท็กความสวยความงาม การแต่งหน้า เครื่องสำอาง เป็นต้น รวมไปถึงการจัดหมวดหมู่ตามคอนเทนต์ของอินฟลูเอนเซอร์นั้น ๆ ว่าเป็นประเภทใด อาหาร ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการให้ความรู้

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโครงข่ายของสังคมโลกโซเชียลมีเดียระหว่างภาคธุรกิจ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ชม ต่างก็ต้องอาศัยแหล่งข้อมูลเข้ามาเป็นตัวช่วยในการผลิตคอนเทนต์ พัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์ม และการตีตลาดสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยง่าย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการทำการตลาดในปัจจุบัน

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง: https://youmooc.co/product/the-kol/

สำหรับผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้โฆษณาหรือคอนเทนต์จากคนที่เราไม่ได้ติดตาม ที่เรามักจะพบเห็นตามหน้าฟีดของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็มาจากการที่ทางแพลตฟอร์มนั้น ๆ วิเคราะห์และมองเห็นแล้วว่าตามช่วงอายุ เพศ หรือความสนใจของเรา สอดคล้องกับเนื้อหาเหล่านั้น เพื่อดึงดูดให้ผู้ชมสนใจอยากติดตาม หรือใช้เวลาอยู่กับแพลตฟอร์มนั้นนาน ๆ 

เช่นกรณีของ Tiktok ที่ส่วนใหญ่จะเป็นวิดีโอสั้น ๆ ในระยะเวลาต่อ 1 คลิปอยู่ที่ประมาณ 15 – 30 วินาที ซึ่งระยะเวลาประมาณนี้จะทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่เบื่อ และสามารถรับชมได้เรื่อย ๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวอีกที ผู้ชมเหล่านั้นอาจจะใช้เวลากับแพลตฟอร์มนี้เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้ว

หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง: https://youmooc.co/product/intro-to-data-science-with-python/

ดังนั้นแล้ว Data Science คือสิ่งที่ควรให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม ยิ่งเรียนรู้และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นได้เก่งแค่ไหน ข้อมูลเหล่านั้นก็จะเป็นตัวช่วยในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของเราให้เกิดประโยชน์ได้มากขึ้นเท่านั้น

บทความเพิ่มเติม:  https://youmooc.co/influencer-kol/   

__________________________________________________________________________

ช่องทางติดตามอื่น ๆ  
✨ Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨Shopee: YOU MOOC
✨ Lazada: YOU MOOC