เมื่อพูดถึงคำว่า Engagement หลายคนก็อาจจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว Engagement หรือการมีส่วนร่วมเหล่า Content Creator หรือ Content Marketer คงคุ้นเคยคำนี้กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ทำคอนเทนต์เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียอย่างเป็นประจำ ซึ่ง Engagement คือการกระทำที่ผู้ใช้ทำเมื่อมีการโต้ตอบกับเนื้อหาที่เราสร้างขึ้นซึ่งทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเนื้อหาเหล่านั้นของเรามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผู้เยี่ยมชมได้สำเร็จไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หากเนื้อหาที่เราเผยแพร่ลงไปนั้นสามารถดึงดูดความสนใจ ช่วยแก้ไขปัญหา รวมถึงสร้างความประทับใจในแง่บวกได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้คนก็มักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการแชร์โพสต์เพื่อแบ่งปันเนื้อหานั้น ๆ แสดงความคิดเห็น หรือการกดถูกใจ หลายคนต้องมีคำถามขึ้นมากันในหัวแน่ ๆ ว่าเอ๊ะ? เราจะทำอย่างไรล่ะให้คอนเทนต์ที่เขียนไปนั้นสามารถดึงดูดให้คนเข้ามามีส่วนร่วมได้ แถมโซเชียลมีเดียก็มีหลายประเภทลองมาศึกษากับคอร์ส รู้จักใช้ Social Media ให้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ ก่อนเลย และวันนี้ YOUMOOC ขอแชร์เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเพิ่มยอด Engagement ให้เอง
ก่อนอื่นเลยการทำคอนเทนต์ในปัจจุบันคือการแข่งขันเพื่อดึงความสนใจจากผู้คน อย่างนั้นแล้วเราจะเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีคอนเทนต์ที่สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วม เพื่อดึงดูดผู้ชมออกจากคู่แข่งได้ เราต้องมีการสร้างกลยุทธ์การมีส่วนร่วมด้วยเนื้อหาที่มีคุณค่าและแข็งแกร่งหนักแน่น เพื่อเพิ่มการโต้ตอบในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเรา
การมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดเพื่อให้เรารู้ว่าสิ่งใดในกลยุทธ์ Content Marketing ของเราใช้ได้ผลหรือใช้ไม่ได้ผลเพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์ต่อไป และนั่นก็คือการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาสามารถวัดการมีส่วนร่วมทั้งหมดที่เกิดจากเนื้อหาที่เราสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย นั่นรวมถึงการแชร์ ปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การกดถูกใจ การแสดงความคิดเห็น ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้ถือว่าสำคัญที่สุดเมื่อต้องพิจารณาถึงประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด และกลยุทธ์โดยรวมของเรา
และการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาจะช่วยให้เราเข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญโดยการวัดระดับการมีส่วนร่วมของผู้ชมกับเนื้อหาของเรา ผู้ใช้มักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากยิ่งขึ้นถ้าเราเชื่อมต่อกับพวกเขามากขึ้น ดังนั้น กุญแจสำคัญในการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นคือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ชมและมีคุณภาพสูง อย่างไรก็ตามแม้ว่าการมีส่วนร่วมในระดับสูงจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่อย่าลืมเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของเราด้วย แอดมินขอแชร์เทคนิคการเขียนคอนเทนต์ให้ทุกคนเอง
8 เคล็ดลับ เขียนคอนเทนต์ให้ได้ Engagement เยอะ
1.โพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าเราจะเลือกสร้างเนื้อหาลงในแพลตฟอร์มไหนก็ตาม ทางเดียวที่จะอยู่รอดได้ คือ เราต้องมีความสม่ำเสมอในการลง เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้สร้างเนื้อหาเพิ่มขึ้นเยอะมากขึ้นทุกวัน เราต้องแน่ใจว่าเราจะสามารถอยู่ในใจของผู้บริโภคได้เสมอ แอดมินขอแนะนำให้วางแผนกำหนดเนื้อหา ซึ่งอาจรวมถึงการกำหนดวัน เวลา และประเภทของเนื้อหาที่เราต้องการโพสต์พร้อมกับการเลือกช่องทางโซเชียลมีเดียที่จะโพสต์ลงด้วย ซึ่งเราสามารถทำบนกระดาษหรือจะดีกว่าหากเราใช้เครื่องมือตั้งเวลาโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Business หรือ Tweetdeck การสร้างกำหนดการของการเผยแพร่เนื้อหาตลอดจนลักษณะของเนื้อหา ทั้ง Content Plan และ Content Pillar ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างความโดดเด่นให้แก่ธุรกิจของเราด้วย
2.ใช้ภาพสต็อกและวิดีโอคุณภาพดี
สมมุติว่าอ่านคอนเทนต์ใดคอนเทนต์หนึ่งอยู่แล้วไม่มีรูปภาพประกอบการเล่า หรือไม่มีคลิปวิดีโอที่มีคุณภาพดีให้เห็น เป็นตัวเราเองเราอยากจะกดเข้าไปในหน้าโปรไฟล์ของเพจเหล่านั้นไหม? เช่นเดียวกับเนื้อหาที่เราจะเขียนนั่นแหละ ผู้คนมักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่มาพร้อมกับรูปภาพหรือคลิปวิดีโอ เนื่องจากภาพจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คน ดังนั้นเราควรเลือกรูปภาพ และวิดีโอที่มีคุณภาพดีทั้งแบบฟรี หรือมีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปสร้างเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาคุณภาพที่ดีของตัวเองอยู่เสมอ
3.ใช้เครื่องมือช่วยในการสร้างสรรค์งาน
ไม่ว่าเราจะทำเนื้อหาประเภทไหน หรือโพสต์ลงแพลตฟอร์มไหน สิ่งสำคัญคือเราจำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยในการสร้าง วางแผน แก้ไข บันทึก และแบ่งปันงานของเรา หากตัวเราเองเป็นคนที่สร้างสรรค์ด้านกราฟิก ก็สามารถใช้ Canva Photoshop Visma หรือ Adobe Spark สำหรับการแก้ไขและปรับสีวิดีโอได้
4.อัปเดตตัวเองด้วยเทรนด์
สำหรับโซเชียลมีเดียแล้วการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ หรือการเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ขึ้นนั้น ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกวันตลอดเวลา เพื่อความอยู่รอดบนเส้นทางการเขียนคอนเทนต์แล้วล่ะ ก็เราต้องอัปเดตตัวเองด้วยเทรนด์ และนำเสนอเนื้อหาตามนั้น แต่คำถามที่จะเกิดตามมาก็คือ จะติดตามเทรนด์ได้อย่างไร? การตามเทรนด์ให้ทันไม่ยากหรอก แค่เราติดตามเนื้อหาหลากหลายที่เกี่ยวข้องจากผู้สร้างเนื้อหาที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ ลองเข้าไปดูโซเชียลของเขา หรือการสัมภาษณ์ของเขา ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ถึงแนวโน้มล่าสุดและแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น และก็จะเห็นได้ว่าเนื้อหาประเภทไหนที่เขากำลังสร้างหรือให้ความสนใจ เพื่อที่เราจะสามารถนำมาปรับใช้ในแบบของตัวเองในการสร้างการมีส่วนร่วม
5.รักษาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
เราต้องสังเกตเห็นว่าสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่คนดูชอบและนิยมเป็นแบบไหน เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างจากผู้สร้างเนื้อหาคนอื่น ๆ เราต้องพัฒนาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและออกแบบคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น การออกแบบโพสต์ การใช้ข้อความ ภาพขนาดย่อของวิดีโอ หรือส่วนอื่น ๆ ของคอนเทนต์ ที่ทำให้เราโดดเด่นไม่เหมือนใคร ดังนั้นให้ใช้เวลาวิเคราะห์โปรไฟล์ของตัวเองและมองหาปัจจัยต่าง ๆ ที่สามารถใช้เพื่อแสดงโปรไฟล์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร
6.ใช้การเล่าเรื่องเพื่อสร้างจุดเชื่อมต่อ
คนส่วนใหญ่มักชอบที่จะฟังเรื่องราว มันคือสิ่งที่ช่วยดึงดูดผู้ชมได้ดีเสมอ ผู้สร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมทุกคนเป็นนักเล่าเรื่อง และหากเราต้องการให้ผู้อื่นฟังเรา เราต้องเชี่ยวชาญในศิลปะการเล่าเรื่อง หากเราประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวผู้คนผ่านเรื่องราวของเรา ก็จะส่งผลถึงการขายผลิตภัณฑ์และบริการได้ง่ายขึ้น เพราะความรู้สึกและประสบการณ์ส่งผลต่อการตัดสินใจได้สูง เรายังสามารถขอให้คนดูแบ่งปันเรื่องราวและคำวิจารณ์ของพวกเขาได้ ซึ่งจะช่วยในการทำการตลาดได้อย่างง่ายดาย
7.สร้างเนื้อหาที่สั้นและไม่ซ้ำใคร
ไม่มีใครที่จะมีเวลามากพอในการอ่านย่อหน้ายาว ๆ หรือดูวิดีโอนานหลายสิบนาที ทุกคนกำลังมองหาเนื้อหาที่รวดเร็วและมีส่วนร่วมเพื่อการบริโภค เราจะต้องมีความเฉพาะเจาะจงมากเกี่ยวกับระยะเวลาและคุณภาพของเนื้อหา เนื่องจากช่วงความสนใจของผู้บริโภคลดลงทุกวัน เราลองคิดหาวิธีนำเสนอเนื้อหาที่ดีที่สุดในเวลาไม่นาน เลือกเฉพาะคำที่เกี่ยวข้องและใส่ในเนื้อหาของเราด้วยวิธีที่น่าสนใจ เราสามารถใช้เครื่องมือในการช่วยออกแบบกราฟิกออนไลน์อย่าง Canva เพื่อสร้างเนื้อหากราฟิกที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งเราควรทำออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม
8.สร้างเนื้อหาที่มีคำกระตุ้นการตัดสินใจ
อย่าสร้างและโพสต์เนื้อหาออกไปทันทีหากยังไม่มีคำกระตุ้นการตัดสินใจในโพสต์ หากเราต้องการให้ผู้คนดำเนินการหลังจากอ่านเนื้อหาของเรา อย่าลืมใส่คำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action) ที่ชัดเจน คำกระตุ้นการตัดสินใจที่เขียนมาอย่างดีจะมีประสิทธิภาพมากใจการทำให้ผู้คนก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป ขอให้ผู้คนแบ่งปันมุมมอง เรื่องราว และส่วนของเนื้อหาที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้ ซึ่งจะช่วยในการสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ชมของเรา และพวกเขาจะแบ่งปันเนื้อหาของเรากับผู้อื่นต่อซึ่งจะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นได้อีก
และเราควรใช้ช่องทางไหนในการลงคอนเทนต์ลองมาเรียนรู้กับคอร์ส รู้จักใช้ Social Media ให้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ กันได้เลย
__________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่น ๆ
Facebook: https://www.facebook.com/youmooc
LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]