ก่อนหน้านี้ธุรกิจกล่องสุ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลาย ๆ ร้านเริ่มมีการนำมาปรับใช้กับการขายของตัวเอง แต่สิ่งที่เป็นที่พูดถึงกันในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้น “กล่องสุ่มพิมรี่พาย” ที่คนซื้อไป เปิดได้รถยนต์ราคาหลายแสน ทำให้เกิดเป็นกระแสการพูดถึงในโลกโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างความฮือฮาและกลายเป็นกรณีศึกษาสำหรับภาคธุรกิจในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของ “กล่องสุ่ม” คือทำให้ผู้บริโภคได้ลุ้น คาดหวัง และตื่นเต้น ซึ่งสินค้าภายในกล่องอาจมีมูลค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าราคาที่จ่ายไป สำหรับในกรณีของกล่องสุ่มพิมรี่พายนั้น จากที่คนดังใน Tiktok หรือ Youtuber หลายท่านได้ยอมจ่ายเงินซื้อกล่องสุ่มไปในราคา 1 แสนบาท แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรถยนต์ IPhone 13 ซึ่งจากการเปิดขายเพียง 10 นาที ก็มียอดจองเข้ามาถึง 100 ล้านบาท ทำให้เกิดเป็นข้อสงสัยว่าเธอทำได้อย่างไร ?
เดิมทีพิมรี่พายเป็นเพียงแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป แต่จุดเด่นของเธอคือขายทุกอย่างที่ขายได้ เมื่อเริ่มขายดีและมีรายได้เข้ามามาก เธอจึงตัดสินใจออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งจุดนี้ทำให้เป็นกระแสในโลกโซเชียลอย่างมาก ทำให้เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ เมื่อมีฐานของแฟนคลับและคนที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็จะนำมาซึ่งความเชื่อใจว่า “ไม่โกง”
จากสิ่งที่พิมรี่พายทำในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดเป็นแนวทางและข้อแนะนำสำหรับการนำไปปรับใช้กับธุรกิจกล่องสุ่มของหลาย ๆ คนได้ ดังนี้
1. การรับฟัง Feedback ของลูกค้า
เพื่อนำกลับมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความประทับใจต่อตัวลูกค้า หากได้รับ Feedback จากลูกค้าแล้วไม่ปรับเปลี่ยนให้ดียิ่งขึ้น ก็อาจจะทำให้จำนวนของลูกค้าลดลง
2. การสร้างความเชื่อใจ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้พิมรี่พายประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ คือการที่เธอมักจะใช้พื้นที่ในโซเชียลมีเดีย ทั้งสำหรับการขายของ การออกไปทำประโยชน์ให้กับสังคม และจากการรีวิวผลตอบรับที่คนทั่วไปเห็นได้ชัดตาม Tiktok หรือ Youtube ว่าหากซื้อของจากเธอแล้วจะได้รับของจริงและมีคุณภาพ จึงก่อให้เกิดเป็นความเชื่อใจและทำให้ลูกค้าใหม่ตัดสินใจซื้อของจากเธอได้ไม่ยาก
3. การจัดหมวดหมู่และระบุให้ชัดเจน
หลายครั้งที่กล่องสุ่มของพิมรี่พาย มักจะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าของภายในกล่องจะเป็นประเภทไหน เช่นกล่องสุ่มเครื่องสำอาง กล่องสุ่มของใช้ หรือแม้กระทั่งกล่องสุ่มของกิน ที่เธอจะจัดเซตและขายเป็นกล่องสุ่มในราคาที่ตั้งไว้ ตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาท
4. ความคุ้มค่าของลูกค้า
สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจแบบกล่องสุ่มคือจะต้องคิดเสมอว่า สินค้าภายในกล่องนั้น เมื่อลูกค้าได้ไปแล้วจะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ลูกค้าใหม่หรือคนที่กำลังตัดสินใจซื้อสามารถดูได้จากรีวิว ซึ่งพื้นฐานของพิมรี่พายที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ทำให้คนดังในโลกโซเชียลอยากจะลองซื้อมา เพื่อลุ้นว่าข้างในเป็นอะไร เมื่อเกิดการรีวิวที่ผู้คนสามารถเห็นได้ชัด จึงทำให้ลูกค้าเห็นถึงมูลค่าที่มากพอที่พวกเขาจะยอมจ่าย
บทเรียนที่เกี่ยวข้อง: “กล่องสุ่ม” อีกหนึ่งแผนธุรกิจ ที่ทุกกิจการควรมี
“กล่องสุ่มพิมรี่พาย” ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่ แต่ด้วยมูลค่าและความจริงใจต่อลูกค้า จึงทำให้ลูกค้าเชื่อใจว่าหากซื้อของกับเธอนั้น ไม่มีทางโดนโกงและคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป จากแนวทางทั้ง 4 ข้อนี้ YOU MOOC หวังเป็นอย่างมากว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทุกท่าน ที่กำลังมองหาหนทางและวิธีการนำไปปรับใช้กับธุรกิจกล่องสุ่มของตัวเองได้นะคะ
____________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]