ต้องบอกก่อนเลยว่า การเป็นเจ้าของกิจการหรือนักธุรกิจไม่จำเป็นต้องวัดด้วยอายุหรือประสบการณ์ทำงานที่โชกโชน เพราะสองสิ่งนี้ไม่อาจเป็นตัวชี้วัดว่าทำธุรกิจอะไรก็จะสำเร็จลุล่วงเสมอไป การทำธุรกิจให้ “ประสบความสำเร็จ” ต้องอาศัยมุมมองที่ก้าวไกล และมีทัศนคติของนักธุรกิจที่แฝงอยู่ในตัว
ซึ่งทัศนคติต่าง ๆ มาพร้อมกับความพร้อมและความกล้าที่จะลงมือทำ ซึ่งสามารถมองได้จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากยุคต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายทัศคติของเจ้าของกิจการที่จะสามารถบริหารธุรกิจให้สำเร็จ ทีนี้มาดูกันว่าคุณมีทัศคติที่ตรงหรืออาจพัฒนาได้เพื่อก้าวสู่เจ้าของกิจการหรือนักธุรกิจหรือไม่ … เพียง 7 ข้อเท่านั้น!
1. ไม่ชอบหยุดอยู่กับที่
คนที่ไม่ชอบหยุดอยู่กับที่ก็เรียกได้ว่าเป็นคนที่มุ่งมานะและมีความเพียรพยายาม ชอบที่จะลงมือทำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์หรือผลงานที่หวังไว้ ถึงแม้จะต้องลองผิดลองถูกอีก 100 รอบ ก็ยังลุกขึ้นมาเพื่อทำมันให้สำเร็จ
อย่างคุณ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon ที่เชื่อว่า “หากล้มแล้วต้องลุกให้ไว” และนำความผิดพลาดต่าง ๆ มาเป็นบทเรียน ซึ่งความพยายามเหล่านั้นสามารถต่อยอดสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด
2. มองความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา
“ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าของกิจการหรือนักธุรกิจต้องคำนึงไว้เสมอ ในทุก ๆ วันเราจะพบกับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจนำมาสู่ความผิดพลาดต่าง ๆ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้
และหากเจอความผิดพลาด หรือเผชิญกับความล้มเหลวบ่อย ๆ ก็มองซะว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สิ่งเหล่านี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันตัวเราให้เก่งขึ้น และรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ดังนั้นต้องรู้จักอดทนและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณอยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

3. มองโลกในแง่ดี
มองโลกในแง่ดี หรือคิดบวก เป็นทัศนคติที่ควรมีต่อทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน การมองโลกในแง่ดีช่วยให้มุมมองการใช้ชีวิตสวยงามและสดใสมากขึ้น คุณจะสามารถมองเห็นวิธีแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นได้อย่างมืออาชีพ
และคุณ Larry Page นักธุรกิจชื่อดัง ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ได้มีความเชื่อว่า การมองโลกในแง่ดีช่วยให้เขามีแรงผลักดันที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ และการมีแนวคิดติดลบสามารถไม่ช่วยให้ตัวเขาพัฒนาศักยภาพต่าง ๆ ไปในทางที่ดีขึ้นได้ แถมยังรู้สึกไม่มีความสุขอีกด้วย ซึ่งนั่นก็ส่งผลกระทบและปัญหาอีกหลาย ๆ อย่าง
4. กล้ารับมือกับความเสี่ยง
แน่นอนว่าการทำธุรกิจต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงต่าง ๆ ตั้งแต่ความเสี่ยงระดับน้อยไปจนถึงมาก แต่ถ้าไม่กล้ารับมือกับความเสี่ยงกับการทำธุรกิจ นั่นก็แสดงว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะเปิดกิจการหรือบริหารงานในฐานะเจ้าของได้ ดังนั้นนักธุรกิจจะต้องกล้ารับมือกับความเสี่ยง และรู้จักเตรียมรับมือกับความเสี่ยงนั้น ๆ ให้ดี
เจ้าของกิจการควรรู้วิธีวางแผนธุรกิจและรู้วิธีรับมือกับปัญหาล่วงหน้า รวมถึงคำนวณความเสี่ยงให้เป็น และมีทักษะการตัดสินใจที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยว เพื่อที่จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคในแต่ละช่วงของกิจการไปได้

5. ไม่ดูถูกดูแคลนผู้อื่น
อีกหนึ่งทัศนคติที่ต้องมี หากอยากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน เพราะหากบริหารธุรกิจให้เก่งให้ปังยังไง แต่มีนิสัยดูถูกดูแคลนผู้อื่น มองผู้อื่นในแง่ลบ หรือมองว่าตัวเองอยู่เหนือสุดก็คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน
คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมองเห็นคุณค่าและให้เกียรติผู้อื่นทั้งทางกายและวาจา ยิ่งต้องทำงานกับผู้อื่น เช่น ลูกน้อง ลูกค้า เพื่อน หรืออื่นๆ ยิ่งต้องมีความโอบอ้อมอารี และมีวิธีการพูดและสื่อสารที่เป็นมืออาชีพ ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่ดูถูกผู้อื่นในด้านของการทำงาน เพราะนั่นจะกลายป็นปมในใจของผู้ฟังได้ โดยที่คุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“คนพูดไม่เคยจำ คนฟังไม่เคยลืม”
6. อย่ามองจำนวนเงินเป็นจุดเส้นชัย
อาจจะจริงที่เราทุกคนล้วนต้องการเงินในการดำรงชีวิต แต่ก็ไม่ควรตั้งจุดเป้าหมายสูงสุดของการบริหารธุรกิจเป็น “ยอดจำนวนเงิน” เท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่เจ้าของธุรกิจควรจะโฟกัสมากยิ่งขึ้น เช่น โอกาสการเติบโต การขยายธุรกิจให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ความต้องการของลูกค้า เป็นต้น
ดังนั้นการบริหารธุรกิจควรค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป และจัดลำดับความสำคัญของการทำธุรกิจให้ดี และตั้งเป้าหมายไว้หลาย ๆ เป้าเพื่อท้าทายความสามารถและพัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
7. รู้จักตัวเอง มีเวลาให้กับตัวเอง
ข้อสุดท้ายนี้ถือว่าเป็นข้อสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการต่าง ๆ ควรรู้จักตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งรูปแบบงานที่ชอบ ธุรกิจแบบไหนที่ชอบ บริหารแบบไหนที่ชอบ จุดเด่น-จุดด้อยของเราคืออะไร นักธุรกิจควรสังเกตและปรับความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อพาตัวเองไปในทิศทางที่ถูกต้อง และพบกับคำว่า “ประสบความสำเร็จ” ได้เร็วขึ้น
ทั้ง 7 ข้อข้างต้นคือคุณสมบัติและทัศนคติของเจ้าของกิจการที่อยากประสบความสำเร็จ ซึ่งหากได้อ่านดี ๆ แล้วจะพบว่า ทั้ง 7 ข้อมีส่วนที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด และถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งไปก็ส่งผลต่ออีกหลาย ๆ ข้อเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าอ่านแล้ว รู้สึกว่าตัวเองขาดข้อนี้ไป ก็ไม่ต้องรู้สึกเสียความมั่นใจหรือย่อท้อนะคะ เพราะเราสามารถพัฒนาศักยภาพ และปรับทัศนคติตัวเองได้อยู่เสมอ ขอแค่กล้าที่จะเริ่มต้นเท่านั้น
________________________________________________________________________________________________
ช่องทางติดตามอื่นๆ
✨ Website: https://youmooc.co/
✨ LINE: @youmooc (อย่าลืมใส่ @) [https://lin.ee/thXVOy0]
✨ Shopee [https://shopee.co.th/youmooc?smtt=0.0.9]
✨ Lazada [https://s.lazada.co.th/s.f0ATJ]